เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ สน.มักกะสัน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” นำ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี มารดาและ ด.ช.บี อายุ 7 ขวบ ลูกชาย เข้าพบ ร.ต.อ.พิสันต์ แก้วขุนทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.มักกะสัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่ชั้น ม.3 อายุ 15 ปี 3 คน ที่ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ด.ช.บี

กัน จอมพลัง กล่าวว่า เด็กผู้เสียหายเรียนอยู่ชั้น ป.1 ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง กรุงเทพฯ เมื่อกลับมาถึงบ้านช่วงเสาร์-อาทิตย์ แม่เห็นรอยการถูกทำร้ายตามตัว ก้นและขา สอบถามไปที่โรงเรียนกลับได้รับคำตอบคลุมเครือว่า เด็กเล่นกัน เรื่องมันจบแล้ว แต่คุณแม่สงสัยว่าจะจบได้อย่างไร เนื่องจากยังไม่เคยพบกับคนที่ทำร้ายลูกชาย อีกทั้งยังถูกรุ่นพี่ชั้น ม.3 ขู่ว่า อย่าไปบอกใคร โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อมีเด็กชายชั้น ม.3 อายุ 15 ปี รวม 3 คน รุมทำร้ายร่างกาย

วันนี้จึงพาผู้เสียหายมาแจ้งตำรวจช่วยสืบหาผู้กระทำผิดว่า มีใครบ้าง และคุณครูที่ปล่อยปละละเลยทำให้เกิดเรื่องมีความผิดหรือไม่ อย่างไร โรงเรียนจะปัดความรับผิดชอบ ตนคิดว่าคงทำไม่ได้เพราะเมื่อเด็กอยู่ในการดูแลของโรงเรียน โรงเรียนก็ต้องรับผิดชอบ มิเช่นนั้นความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของผู้ปกครองที่ส่งมอบบุตรหลานมาที่โรงเรียนจะมีอยู่ได้อย่างไร เรื่องนี้กลายเป็นเด็กที่ถูกทำร้ายต้องหยุดเรียน ทั้งที่ความผิดน่าจะอยู่กับเด็กวัย 15 ปี ชั้น ม.3 ทั้ง 3 คนที่ควรจะต้องหยุดเรียนได้รับการอบรมสั่งสอนไม่ควรทำร้ายเด็กแบบนี้ โดยตนจะช่วยประสานงานหาโรงเรียนแห่งใหม่ให้แก่ผู้เสียหายด้วย

น.ส.เอ แม่ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนมาเห็นสภาพบาดแผลของลูกเมื่อช่วงก่อนวันเด็กที่ผ่านมา สอบถามจึงได้ความว่า ถูกทางรุ่นพี่ทั้ง 3 คน กล่าวหาว่าลูกชายตนเอาเงินไป แต่ลูกปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป กลับถูกทั้ง 3 คน ทุบตีเพื่อให้ยอมรับว่าขโมยเงิน โดยทั้ง 3 คน นอนรวมกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง โดยรุ่นพี่ควรมีหน้าที่ดูแลรุ่นน้องแต่กลับมาทำร้ายร่างกาย เมื่อตนมาเห็นสภาพบาดแผลของลูกรู้สึกสงสาร และการทำร้ายครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 แล้ว

น.ส.เอ เล่าอีกว่า เมื่อไปแจ้งครูกลับได้รับคำตอบว่า ถ้ามีรอบหน้าก็ให้มาแจ้งอีก ตนคิดว่า ถ้าส่งลูกไปเรียนอีก แล้วความปลอดภัยของลูกตนจะอยู่ที่ไหน ที่ผ่านมาโรงเรียนไม่ได้ติดต่อหรือเรียกไปเจรจากับฝ่ายผู้กระทำผิดแต่อย่างใด จึงมาร้องเรียนผ่าน กัน จอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอฝากถึงโรงเรียนว่าอยากให้ดูแลเด็กให้มากกว่านี้ อย่าให้มีกรณีรุ่นพี่มาทำร้ายร่างกายเด็กที่เล็กกว่าอีก

ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน เตรียมนัดหมายสหวิชาชีพ มาร่วมสอบสวนเด็กผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอสอบปากคำเยาวชนอายุ 15 ปี 3 คน และคุณครูของโรงเรียนดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป