มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย กำลังกลายเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งชาติ หลังนำทัพ “ช้างศึก” ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก เอเชียน คัพ 2023 ที่กาตาร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ดังน้้น เราจะพาไปทำความรู้จักกุนซือหนุ่มใหญ่วัย 56 ปี รายนี้กันให้มากขึ้น ว่าเส้นทางที่ผ่านมา ก่อนก้าวมากุมบังเหียน “ช้างศึก” เป็นอย่างไรบ้าง

อิชิอิ เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักฟุตบอลกับสโมสร เอ็นทีที คันโตะ ในปี 1989 ในยุคที่ลีกญี่ปุ่นยังเป็นกึ่งอาชีพ ก่อนที่ในปี 1991 จะย้ายมาอยู่กับ ซูมิโตโมะ เมทัล หรือในเวลาต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น คาชิมา แอนท์เลอร์ส ในปี 1993 เมื่อ เจลีก ถูกก่อตั้ง ช่วงเวลา 6 ปีที่อยู่กับ “กวางเขาเหล็ก” อิชิอิ ช่วยทีมคว้าแชมป์เจลีก 1 สมัย ในปี 1996 และ เอ็มเพอเรอร์ คัพ และ ลูวาน คัพ ในปี 1997 ก่อนย้ายไป อวิสปา ฟูกูโอกะ ในปี 1998 เล่นอยู่ที่นั่นได้ปีเดียว ก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดด้วยวัยแค่ 31 ปี

หลังจากนั้น อิชิอิ ยังคงทำงานในแวดวงลูกหนัง โดยกลับไปอยู่กับ คาชิมา แอนท์เลอร์ส ในตำแหน่งนักกายภาพบำบัด และขยับขึ้นมาเป็นทีมงานโค้ชของสโมสร และได้ขึ้นเป็นกุนซือใหญ่ของทีมในปี 2015 แทนที่ โตนินโญ เซเรโซ ที่โดนปลด ทำให้เขากลายเป็นกุนซือญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังก่อตั้งมา 21 ปี โดยในการคุมทัพ “กวางเขาเหล็ก” เขาพาทีมคว้าแชมป์ลูวาน คัพ 2015 แชมป์เจลีก และเอ็มเพอเรอร์ คัพ ปี 2016 แต่ที่เป็นที่จดจำที่สุด คือการเกือบพาทีมโค่น “รีล มาดริด” ในรอบชิงชนะเลิศ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เมื่อปี 2016 ก่อนจะพ่ายในช่วงต่อเวลา 2-4

แต่ในปีต่อมา แอนท์เลอร์ส ผลงานไม่ดี ทำให้ อิชิอิ ถูกปลด และย้ายไปคุม โอมิยา อาร์ดิจา แต่ก็ไม่สามารถพาทีมรอดพ้นการตกชั้นได้ แม้เขาจะยังอยู่คุมทีมสู้ศึก เจลีก 2 ในซีซั่นถัดมา แต่ล้มเหลวเลื่อนชั้นไม่สำเร็จ อิชิอิ จึงต้องตกงานอีกครั้ง

หลังจากนั้น อิชิอิ เลือกที่จะพักจากงานในวงการฟุตบอล หันไปทำงานเป็นพนักงานในศูนย์อาหารสำหรับโรงเรียนในเมืองคาชิมา ที่มีหน้าที่ปรุงอาหารแจกจ่ายไปตามโรงเรียนต่าง ๆ ในเมือง ซึ่งเขาต้องไปยื่นใบสมัคร และสอบสัมภาษณ์ตามวิถีปกติ ท่ามกลางความงุนงงของคนทั่วไป ว่าคนที่โปรไฟล์ระดับเขา กลับเลือกมาทำงานธรรมดา ๆ แต่นั่นคือทางเลือกที่ทำให้เจ้าตัวได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ทำงานเป็นเวลา มีวันหยุดที่แน่นอน แถมยังมีช่วงเวลาในการได้หยุดพักร้อนเป็นเดือน ทำให้เขาได้มีโอกาสอยู่กับลูกสาวที่กำลังเติบโต อีกทั้งที่นั่นยังเป็นที่ที่ทำให้กุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้ ได้ทักษะในการสื่อสาร ประสานงานมาเพิ่มอีกเยอะ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 อิชิอิ ก็ได้หวนกลับมาทำงานในวงการฟุตบอลที่เขารักอีกครั้ง หลังได้รับการติดต่อจาก สมุทรปราการ ซิตี้ ทีมในไทยลีก ให้มาคุมทัพ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รับไฟเขียวจากครอบครัว โดยที่ภรรยาสุดที่รักเป็นคนหาข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตในเมืองไทยให้อีกต่างหาก เขาคุมทัพ “เขี้ยวสมุทร” จนถึงปี 2021 ก่อนย้ายไปคุม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนสร้างผลงานพา “ปราสาทสายฟ้า” คว้าทริปเปิลแชมป์ 2 ปีซ้อน ก่อนที่เส้นทางจะมาบรรจบกับทีมชาติไทย ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีม “ช้างศึก” เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

เครดิตภาพ : Nikkan Sports, www.jsoccer.com