ลูอิส แฮมิลตัน อดีตแชมป์โลกรถสูตรหนึ่ง 7 สมัยชาวอังกฤษ ยืนยันใช้เงื่อนไขยกเลิกสัญญา อำลาทีมเมอร์เซเดส เพื่อย้ายไปขับให้กับทีมเฟอร์รารี ในฤดูกาล 2025 หรือฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป โดยจะเซ็นสัญญากับทีม “ม้าลำพอง” เป็นเวลาหลายปี

เมอร์เซเดส ระบุผ่านแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า “ทีมเมอร์เซเดส กับ ลูอิส แฮมิลตัน จะแยกทางกันหลังจบฤดูกาล 2024 ลูอิส ตัดสินใจใช้เงื่อนใขยกเลิกสัญญาตามที่ได้กำหนดเอาไว้ในสัญญาใหม่ที่เซ็นกันไว้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ส่งผลให้ฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายแล้วที่เขาจะลงแข่งให้กับทีมซิลเวอร์ แอร์โรว์ส”

ด้าน แฮมิลตัน ซึ่งจะย้ายไปเป็นเพื่อนร่วมทีมของ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ในซีซั่น 2025 แทนที่ คาร์ลอส ซานซ์ ที่จะหมดสัญญากับ “ม้าลำพอง” หลังจบซีซั่นนี้นั้น กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญว่า “ผมมีช่วงเวลา 11 ปีที่ยอดเยี่ยมกับทีมนี้ และภูมิใจกับความสำเร็จที่เราสร้างมาร่วมกัน เมอร์เซเดส เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมมาตั้งแต่ผมอายุ 13 ปี ผมโตที่นี่ ดังนั้นการตัดสินใจย้ายออกไปจึงเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากที่สุดของผมเลยทีเดียว แต่มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่ผมจะก้าวต่อไป และผมก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับความท้าทายใหม่ที่รออยู่”

“ผมจะรู้สึกซาบซึ้งกับแรงสนับสนุนอันยอดเยี่ยมที่ผมได้รับจากครอบครัวของเมอร์เซเดสของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก โตโต้ (โตโต้ โวล์ฟฟ์ ทีมบอสของเมอร์เซเดส) ซึ่งมีทั้งความเป็นเพื่อและความเป็นผู้นำ และผมก็อยากทำผลงานให้ดีที่สุดรวมกับทีมในฤดูกาลนี้ ผมยังมุ่งมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ในซีซั่นนี้ และทำให้ปีสุดท้ายของผมกับทีมซิลเวอร์ แอร์โรว์ส เป็นซีซั่นแห่งความทรงจำ” นักซิ่งวัย 39 ปี กล่าว

ด้าน โตโต้ โวล์ฟฟ์ ทีมบอสของ เมใอร์เซเดส ระบุว่าทีมยอมรับในการตัดสินใจของ แฮมิลตัน โดยกล่าวว่า “ในแง่ของการทำงานร่วมกับระหว่างทีมผู้สร้างกับนักขับนั้น เรากับ ลูอิส คือการจับคู่ที่ประสบความสำเร็จที่สุดเท่าที่กีฬาประเภทนี้เคยมีมา และนั่นคือสิ่งที่เราสามารถย้อนกลับไปมองได้ด้วยความภาคภูมิใจ ลูอิส คือส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตของ เมอร์เซเดส อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่าสักวันมันก็ต้องสิ้นสุด และตอนนี้วันนั้นมันก็มาถึงแล้ว”

“เรายอมรับการตัดสินใจของ ลูอิส ในการเสาะหาความท้าทายใหม่ ๆ และในขณะเดียวกันมันก็จะเป็นโอกาสของเราที่จะมองหาความตื่นเต้นในอนาคต แต่ตอนนี้เรายังคงมีเวลาอีก 1 ฤดูกาลในการทำงานร่วมกัน และเราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะลงแข่งขันเพื่อผลงานที่ดีในปี 2024 นี้”