จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพและข้อความของบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่บ้านป่าเสร้า หมู่ที่ 6 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่ขึ้นป้ายไวนิลหน้าบ้านระบุทำนองว่า “…ห้ามปล่อยหมามาขี้หน้าบ้านนี้เด็ดขาด เลี้ยงหมาแล้วควรมีสามัญสำนึกและหัดมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ปล่อยให้หมามาขี้หน้าบ้านคนอื่น โดยไม่รู้สึกละอายใจ ภาษาไทยคนไทยต้องอ่านออก…” ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่ภาพและข้อความดังกล่าวออกไปแล้วปรากฏว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่มองว่า ทางเจ้าของหมาหรือสุนัข ต้องมีความรับผิดชอบ ไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ทั้งยังเรียกร้องให้หน่วยงานทั้งจังหวัดและปกครองท้องถิ่น ควรลงมาพูดคุยทำความเข้าใจ รวมทั้งเอาผิดอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านพักที่ขึ้นป้ายไวนิล ซึ่งได้พบกับ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านกำลังกวาดใบไม้และตักก้อนขี้หมาไปทิ้ง ภายหลังเปิดเผยว่า ตนปลูกบ้านหลังนี้มา 5 ปี อยู่อย่างสงบไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนบ้านใกล้เคียงเอาสุนัขมาเลี้ยงไว้ 6 ตัว มีการปล่อยให้วิ่งเล่นแล้วก็ไปขับถ่ายเอาไว้ทั่วซอย แรกๆ ก็ยังพอทน แต่พอนานๆ ไปชักไม่ไหว สร้างความเดือดร้อนต้องคอยตัก-เก็บขี้หมาที่กองอยู่บนถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หน้าบ้านของตัวเอง เพราะหมามาขี้ไว้แทบทุกวัน ขณะที่ฝ่ายเจ้าของหมากลับไม่สนใจไป เคยคุยแล้วว่าบอกว่าให้ดูแลให้ดี ก็ยังปล่อยมาขี้หน้าบ้านในซอยอยู่เช่นเดิม ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ต้องเก็บขี้หมาที่ทั้งสกปรกและเหม็นทุกวัน

“…พยายามทำสารพัดวิธี ทั้งนำน้ำส้มสายชูราด วางขวดน้ำเปล่า แต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา หมามันก็จะย้ายที่ไปขี้เรื่อยๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 67 คุยกับสามีก่อนไปทำป้ายที่ร้าน และนำมาติดหน้าบ้าน เพื่อให้เจ้าของสุนัขขับรถผ่านมาเห็น จะได้รับรู้ถึงปัญหาของครอบครัวเราบ้าง เคยไปร้องเรียนทั้งผู้ใหญ่บ้านและเทศบาลมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ทางเดียวที่จะทำได้ก็คือโพสต์ลงโซเชียลให้สังคมรับรู้การกระทำของเจ้าของหมาและฝ่ายงานเกี่ยวข้อง…”

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เลี้ยงสุนัขเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าคนในบ้านอ้างว่า เจ้าของสุนัขไม่อยู่ ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้.