เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่รัฐสภา นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตนได้หารือถึงความเดือดร้อนของประชาชนใน จ.แม่ฮ่องสอน  เนื่องจากมีโรงเรียนชื่อโรงเรียนนาเจ็ดล็อค ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในกลุ่มการจัดการศึกษาในลักษณะพิเศษ โดยโรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านห้วยโป่ง ต.ผ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ระยะทางจากศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนถึงโรงเรียนแห่งนี้โดยประมาณ 47 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มีอาคารเรียนหนึ่งหลัง ซึ่งเป็นอาคารไม้ สองห้องเรียน สอนตั้งแต่อนุบาลหนึ่งถึง ป.6 มีนักเรียน 11 คน มีข้าราชการครูหนึ่งคน มีลูกจ้างที่ทางยูนิเซฟจ้างให้ 1 คน เงินเดือน 5,800 บาท

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ครูมีหน้าที่สอนทุกวิชาตั้งแต่อนุบาล จนถึง ป.6 ที่สำคัญครูยังต้องทำหน้าที่เป็นพ่อครัว แม่ครัว เป็นยาม เป็นภารโรง ซึ่งมี ผอ.1 คนดูแลโรงเรียนในลักษณะเดียวกันถึง 7 แห่ง นอกเหนือจากทำหน้าที่ ผอ.แล้วต้องทำหน้าที่ขับรถรับส่งอาหารให้กับโรงเรียนแต่ละโรงเรียนที่อยู่ติดขอบชายแดนทั้งหมด ทั้งนี้ มีบ้านพักครูหนึ่งหลัง มีโรงอาหารและอาคารอเนกประสงค์หนึ่งหลัง มีห้องน้ำอยู่ 4 ห้อง อาคารเรียนและถนนต่างๆ ที่เข้าสู่โรงเรียนนั้นได้ใช้งบประมาณจากเงินบริจาคทั้งสิ้น รวมถึงแรงงานก็เป็นแรงงานจิตอาสา

“จ.แม่ฮ่องสอน มีโรงเรียนในลักษณะที่อยู่ในกลุ่มการจัดการลักษณะพิเศษทั้งสิ้น 27 โรงเรียน มีนักเรียนอยู่ประมาณ 700 กว่าคน มีบุคลากรการศึกษาอยู่ประมาณ 50 คน ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนตามแนวตะเข็บชายแดนและเป็นพื้นที่ห่างไกลของจังหวัด ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีถนนลาดยาง หรือถนนคอนกรีต ผมจึงขอความอนุเคราะห์ให้ผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ลงพื้นที่เพื่อดูแลช่วยเหลือและแก้ปัญหาเรื่องสวัสดิการและเรื่องงบประมาณต่างๆ ให้กับกลุ่มโรงเรียนดังกล่าวด้วย” นายปกรณ์ กล่าว.