สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า สืบเนื่องจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเก็งคว้าตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. นี้ กล่าวว่า เขา “สนับสนุน” ให้รัสเซียโจมตีทางทหาร ต่อสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แห่งใดก็ตาม ซึ่งไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณกลาโหมให้ถึง 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า การที่ทรัมป์ “แสดงเจตนา” ที่จะ “ให้ไฟเขียว” กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในการสร้างสงครามและก่อความรุนแรง ทั้งที่ปูตินยังคงเดินหน้าโจมตียูเครน และส่งสัญญาณแผ่ขยายความโหดร้ายต่อไปยังกลุ่มประเทศบอลติก ที่รวมถึงโปแลนด์ “เป็นการแสดงทรรศนะที่อันตรายและน่ากลัว”
I’d encourage Russia to ‘do whatever the hell they want’ with NATO allies if they don’t pay up – Trumphttps://t.co/FModwC0oXo pic.twitter.com/PnCEw8fped
— RT (@RT_com) February 11, 2024
ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า เขาเคยสนทนากับผู้นำประเทศหนึ่ง เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ ระหว่างการประชุมสุดยอดนาโต ซึ่งผู้นำประเทศนั้นถามว่า สหรัฐจะช่วยเหลือหรือไม่ หากประเทศซึ่งยังไม่สามารถจัดสรรงบประมาณกลาโหมได้ถึงสัดส่วน 2% ถูกโจมตีโดยรัสเซีย ทรัมป์ตอบว่า “ไม่ และจะยิ่งสนับสนุนให้รัสเซียทำตามที่ต้องการ”
ขณะที่นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต วิจารณ์คำพูดของทรัมป์ ว่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคงของสหรัฐด้วย และไม่สอดคล้องกับมาตรา 5 ของกฎบัตรนาโต ซึ่งระบุว่า สมาชิกนาโตทุกประเทศต้องปกป้องกันและกัน ด้านนายชาร์ล มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวว่า ทรรศนะของทรัมป์ “มีแต่จะยิ่งเข้าทาง” รัสเซีย
อย่างไรก็ตาม นายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกรัฐฟลอริดาสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ในสมัยทรัมป์ยังเป็นผู้นำสหรัฐ ทรัมป์ไม่เคยคิดนำสหรัฐออกจากนาโต ในทางกลับกัน รัฐบาลวอชิงตันสมัยนั้นเพิ่มความสนับสนุน และกระจายกำลังทหาร ประจำการครอบคลุมสมาชิกนาโตแทบทุกประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP