เมื่อวันที่ 21 ก.พ.67 ตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะขับมาด้วยความเร็วก่อนเสียหลักพุ่งชนกลุ่มนักเรียนชั้นประถม และครูที่กำลังทำกิจกรรมออกฐานลูกเสือในศาลาริมทาง มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดพื้นที่ บ้านพรุเตียว หมู่ 5 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่กู้ชีพไม้ขม รพ.สะเดา และเจ้าหน้าที่กู้ชีพสำนักขาม

ที่เกิดเหตุพบเป็นศาลาริมทางมีการปิดป้าย “ฐานที่ 2” สภาพเสาช่วงหน้าศาลาถูกชนขาด หลังคาหักโค่นลงมาบางส่วน ห่างไปไม่ไกลพบรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ผพ 3731 สงขลา สภาพพังเสียหายชนอัดติดกับต้นมะม่วง โดยมีนักเรียนในชุดลูกเสือและเนตรนารี ได้รับบาดเจ็บรวม 14 คน เป็นชาย 7 หญิง 7 และครูผู้หญิงอีก 1 คน อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังช่วยเหลือนำตัวทั้งหมดส่ง รพ.สะเดา และรพ.ปาดังเบซาร์ เป็นการด่วน ในจำนวนนี้มีนักเรียนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา 2 ราย เป็นเด็กชาย 1 และ เด็กหญิง 1 ราย ส่วนคนขับอาศัยช่วงชุลมุนทิ้งรถหลบหนีไป

สอบถาม นายมูฮัมหมัด เซนมุลิ ผอ.โรงเรียนบ้านพรุเตียว บอกว่า ตอนเกิดเหตุมีนักเรียนมาทำกิจกรรมเดินทางไกล 20 คน โดยเส้นทางดังกล่าวเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ทางคณะครูได้มีการตรวจสอบเส้นทางเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนแล้ว โดยพบว่าบางจุดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายก็ได้ตัดออกไป แต่ก็ยังมาเกิดเหตุได้อีก ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ขึ้น ซึ่งทั้งครูและนักเรียนต่างอยู่ในความตกใจ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เกิดเหตุขณะด็กนักเรียนซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมโรงเรียนบ้านพรุเตียว ร่วมทำกิจกรรมลูกเสือเดินทางไกล โดยมีการแวะทำกิจกรรมตามฐานต่างๆ ที่ครูกำหนดไว้ แต่ขณะมาถึงศาลาริมถนนที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหนึ่งในฐานกิจกรรมลูกเสือครั้งนี้ ทั้งหมดได้เข้าไปรวมกันอยู่ในศาลาเพื่อทำกิจกรรม อยู่ๆ ปรากฏว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วแล้วเสียหลักพุ่งชนนักเรียนที่อยู่ในศาลาราว 20 คน และครู กระเด็นไปคนละทิศละทางบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

หลังเกิดเหตุไม่นาน มีรายงานว่าคนขับรถกระบะคันดังกล่าว เป็นชายอายุ 35 ปี ได้เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.สะเดา แล้ว อยู่ระหว่างตำรวจนำตัวไปตรวจแอลกอฮอล์ และหาสารเสพติดในร่างกาย ก่อนดำเนินการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป