ประเดิมกันแล้ว กับการจับสลากคัดเลือกผู้ตัดสิน เพื่อทำหน้าที่ในฟุตบอลไทยลีก 2023-24 โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ก.พ. 67 ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประเดิมทดลองใช้วิธีนี้ สำหรับแมตช์เดย์ที่ 19 ตามแนวทางที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ว่าที่ประธานคณะคณะกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วน

วงในชี้ยังไงก็มีช่องโหว่ใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การใช้วิธีจับสลากจัดทีมผู้ตัดสิน ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมลูกหนังอย่างมาก มองกันว่า กลับไปใช้วิธีเก่าๆ ที่ในหลักสากลไม่มีปฏิบัติกัน โดยสำหรับในไทย เคยจับสลากผู้ตัดสินตั้งแต่ยุค “บังยี” วรวีร์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมฯ

จากนั้นยุค “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยกเลิกวิธีการนี้ โดยเริ่มจากใช้วิธีหมุนเวียนกันไป จากนั้นใช้วิธีพิจารณาตามความเหมาะสม มีหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการเลือกผู้ตัดสิน ที่ต้องไม่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งขัน อาทิ ผู้ตัดสินต้องไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่ได้ทำงานในพื้นที่ หรือแม้แต่ภรรยา, พ่อ, แม่ ก็ต้องไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของคู่แข่งขัน นอกจากนั้น ยังอาจมีหลักเกณฑ์พิเศษ เช่นความสนิทสนมกันระหว่างผู้ตัดสิน กับผู้ใหญ่ในสโมสร

“กีฬาเดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยของแหล่งข่าวที่เคยทำงานสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ว่า การแก้ปัญหาด้วยการจับสลาก อาจเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ เพราะก็ยังมีโอกาสที่จะมีการทาบทาม จัดจ้างผู้ตัดสินได้อยู่ดี ในเมื่อสามารถทราบได้อย่างชัดเจนว่า ใครจะทำหน้าที่แมตช์ไหน และยังมีเวลา 2-3 วัน กว่าจะถึงแมตช์ โดยเฉพาะช่วงระยะอันตรายที่จะมีการทาบทามผู้ตัดสิน คือเมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดที่จัดแข่งขัน ซึ่งโดยกฎของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) แล้ว ก็จะให้ “เจ้าบ้าน” อำนวยความสะดวกในการพัก การเดินทาง ซึ่งบางทีอาจจะมีการ “ดูแล” ที่ดีเกินกว่าปกติที่ควรเป็น รวมทั้งยื่นข้อเสนอต่างๆ

“ก่อนหน้านี้ จะแข่งกันที ก็จะสอบถามกันตลอด ใครเป่าแมตช์ไหน ต้องพยายามปิดให้เต็มที่ ส่วนการจับสลากที่ทำกันตอนนี้ ต้องทำก่อน 2-3 วัน เพื่อจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ทำให้หากจะมีคนติดต่ออะไรกับผู้ตัดสิน ยังมีเวลาพอสมควร”

แฉกลเม็ด-ต้องสับหลอกแก้เกม
แหล่งข่าวระบุเพิ่มเติมว่า จากที่ทราบมา ก่อนหน้านี้มีบางกรณี เมื่อผู้ตัดสินเดินทางไปถึงจังหวัดที่จัดแข่งขัน ก็มีการเชิญไปยังบ้านพักของผู้หลักผู้ใหญ่ทันที ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะมีการคุยอะไรกัน หรือมีความจำเป็นอันใด นอกจากนี้ ในการจัดผู้ตัดสินในชุดผู้บริหารก่อนหน้านี้ หลายครั้งก่อนแข่ง มี “กลิ่นไม่ดี” โชยมา จนต้องสั่งเปลี่ยนผู้ตัดสินกะทันหัน บางแมตช์ต้องสับขาหลอก นอกจากทีมผู้ตัดสินที่ส่งนั่งเครื่องบินไปตามปกติแล้ว ยังส่งอีกทีมแอบนั่งรถตู้ไปล่วงหน้า เพราะสืบทราบมาว่า ทีมที่ไปกับเครื่องบิน อาจมี “ดีลลับ” จึงต้องสลับให้ทีมที่ 2 ไปทำหน้าที่แทน

ส่วนการติดต่อว่าจ้างผู้ตัดสินให้เป่าแบบล็อกผลนั้น ผู้ว่าจ้างจะใช้คนสนิทเป็นคนกลาง แล้วให้ผู้ตัดสินไปเปิดบัญชีใหม่ ใช้ชื่อคนอื่น หรือเรียกว่าเป็น “บัญชีม้า” เพื่อโอนเงิน แต่เคสที่ความแตก จนเป็นคดีที่ผ่านมา เพราะผู้ตัดสินดันเอาบัตรเอทีเอ็มที่เป็นบัญชีม้า ไปกดเงินเอง แล้วถูกจับภาพโดยกล้องวงจรปิด

“บางทีผู้ตัดสินก็ลำบากใจ เขาอยากทำหน้าที่เพื่อไต่ระดับ ก็เจอผู้มากบารมี อย่างบิ๊กแมตช์ไทยลีกล่าสุด มีการเปลี่ยนผู้ตัดสิน 3 คน คนที่ได้รับมอบหมาย ก็บอกว่าป่วย เจ็บ ติดงาน ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่”

“การดีลกับกรรมการ เมื่อก่อนนี้ก็มีทั้งการรับรองอย่างดีราววีไอพี แล้วก็ยื่นข้อเสนอ ซื้อของให้บ้าง ฝากให้ภรรยาบ้าง นอกจากนี้ยังเคยได้ยินว่า นอกจากดีลกันเป็นนัดๆ ยังมีแบบแพ็กเกจทั้งฤดูกาลด้วย เพื่อให้ได้ผลที่ต้องการในแต่ละฤดูกาล”

“เข้าใจ มาดามแป้ง ว่ามีความพยายามเพื่อความโปร่งใส แต่ต้องพิจารณากันว่าตรงจุดหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ตัดสิน อยากทำผลงานให้ดี ทะเยอทะยานไปสู่ระดับโลกให้ได้” แหล่งข่าวกล่าว.

(แฟ้มภาพจากการประชุมผู้ตัดสิน เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 67)