ถูกสนใจรัวๆ สำหรับ หญิง ธิติกานต์ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่ล่าสุดขอควงแฟนหนุ่มงานดี เอ เปิดตัวที่แรก ไม่เคยออกรายการที่ไหนมาก่อน คบหาดูใจกันลับๆ มากว่า 8 ปี รวมทั้งเล่าปาฏิหาริย์พลิกชีวิต ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ช่องOne31 แบบจัดเต็ม
หญิง เผยว่า “เรื่องคุณเอคบ 8 ปีไม่เปิดตัว จริงๆ ไม่ถึงกับไม่เปิดตัว หญิงยังให้พื้นที่คุณเอเสมอ เพราะคุณเอเป็นผู้จัดการของหญิงด้วยในการติดต่อสื่อสาร ถ่ายรูป เปิดเพลง ก็อยู่ด้วยกันตลอด แต่ด้วยเขาเข้าใจว่าเราทำอาชีพนี้ เขาเองก็เคยเป็นนักร้องมาก่อนเหมือนกัน ก็เลยเหมือนมีพื้นที่ในการทำงานให้แก่กันด้วยความเข้าใจ เขาคิดว่าเป็นผู้จัดการที่เป็นเพื่อนสาวด้วย ตอนแรกไม่ได้คุยกัน ถ้าอะไรที่ไม่ถึงเวลา ก็จะไม่เป็นคนไขว่คว้า ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามพรหมลิขิตต่างๆ โน่นนี่นั่น เราไม่เคยเจอเขาเลยนะ เขาบอกเธอไปงานโน้นงานนี้ เราไปงานเดียวกันนะ ทำไมเราไม่เคยเห็นเขาเลย ที่เขาส่องโซเชียลเรา ตอนนั้นจะบอกว่าส่องก็ไม่ถูก เรายังเล่นโซเชียลไม่เก่ง ไม่มีการซ่อนเพื่อน 30 วัน ไม่มีแบบนี้ ใครเป็นเพื่อนเราก็เห็นหน้าฟีด แล้วก็เห็นเขาทุกวัน ภาณุวัฒน์ ตาคนนี้เขาเป็นอะไร ทำไมไม่เหมือนคนปกติ ไลฟ์สไตล์เลย วันนั้นเลยที่หญิงลบเพื่อนคือเขาถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็กนอนอยู่กลางหิมะ เอาหลังแนบกับพื้นหิมะไปเลย เราเป็นคนขี้หนาว เราจินตนาการว่าถ้าเป็นฉันนะผ้านวมผ้าห่มผ้าทุกอย่างต้องมา แล้วเธอล่ะ เธอเป็นคนไม่ปกติ ลบเพื่อนเลย (หัวเราะ) หญิงอาจมีตรรกะของหญิง แต่หญิงเห็นมาเรื่อยๆ เป็นคนแปลกๆ ไม่อยากเห็น ก็ลบเลยดีกว่า”
“ถามว่าเขาจีบไหม ไม่รู้เขาจีบหรือเปล่า หรือเราคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจีบหรือเปล่า แต่เราได้พูดไปว่า ถ้าเราจะคุยกัน ก็เป็นตัวตนกันไปเลยนะ ไม่ต้องมาแอ๊บว่าต้นดี ปลายมาออกลวดลาย ไม่เอา เราเจอมาเยอะแล้ว เธอก็คงเจอมาเยอะใช่มั้ย งั้นเราเอาความจริงมาคุยกันดีกว่า ตอนนั้นอายุน่าจะ 30 ต้นๆ ไม่แอ๊บแล้ว บอกว่าไม่ต้องแอ๊บ เจอเยอะ ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอเขา จนถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นเหมือนเดิม เขาดูแลหญิงดีมากขึ้นด้วย นี่แหละเป็นสิ่งที่หญิงมองว่าเป็นเนื้อแท้เขาจริงๆ ที่เป็นแบบนี้ ไม่เคยพูดคำหยาบเลย ไม่เคยได้ยินเลยจนถึงทุกวันนี้ อาจไม่ใช่แค่คนรักก็ได้ เป็นงาน คนเข้ามาหาเรา ด้วยความไว้วางใจ เราก็เปิดใจ ใจดีกับคนอื่นมากเกินไป คนอื่นไม่ได้มองว่าเราเป็นคนใจดีแล้วเกรงใจ แต่เขาเอามาเป็นอาวุธทำร้ายเราอีกที เราก็เลยมองว่าถ้าเราจะคุยกัน การเป็นแฟนหรือคู่รักหรือจะพัฒนาเป็นคู่ชีวิต ต้องเป็นคนใกล้ชิดเรามากที่สุด ฉะนั้นอันตรายนะถ้าเขามาแบบไม่จริง หญิงก็เลยพูดป้องกันตัวเองและความรู้สึกตัวเองเอาไว้ เพราะเราไม่อยากเจ็บ หญิงพูดกับใครไม่มีใครเชื่อเลย ว่าที่ผ่านมาหญิงไปงานคนเดียว ขับรถคนเดียว บางทีไปกับน้องหมา เวลาเปิดเพลงใครเปิดให้ล่ะ ก็รบกวนที่วงเขาเปิดให้ พอมาเล่าให้เขาฟัง เขาบอกโอ้โห อดทนด้วย และอันตรายด้วย หลายๆ อย่าง เราไม่ควรไปงานคนเดียว มันไม่ปลอดภัย เขาบอกว่าด้วยงานเขาเองทำแสงสีเสียง ก็รับเป็นอีเวนต์ ทำให้การทำงานถ้ามาร่วมกัน หรือมาดูแลกัน จะมีเวลาทำงานกันได้”
“เรื่องแต่งงาน หนูกับเขาเคยคุยกันเล่นๆ เราทำงานมาก็เหนื่อย เก็บเงินไว้กินไว้ใช้ดูแลพ่อแม่ ถ้าวันนี้ไม่มีงานแต่งที่สวยงามเหมือนใครๆ เขาก็ไม่เป็นไรเนอะ เป็นการตกลงของเรา พ่อแม่เราก็ไม่ได้อะไร แต่ล่าสุดไปเดินห้าง ก็บอกว่าเดี๋ยวให้ดีขึ้น เราจัดเล็กๆ กันเนอะ ส่วนเรื่องปาฏิหาริย์พลิกชีวิต หญิงเป็นคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หรือไม่เชื่อเลย ที่ผ่านมามองว่าฉันได้ฉันเป็นเพราะตัวฉันเอง จริงๆ หญิงเคยแอบท้านิดนึงนะ มีจริงหรือเปล่า มาให้ได้รู้ให้ได้เห็นให้ได้สัมผัสหน่อยสิ มันก็ผ่านมานานมาก จนวันนึงหญิงไปทำงานแล้วไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น วันนั้นหญิงฝันว่าหญิงได้ยินเสียงสวดเป็นภาษาบาลีหรืออะไรสักอย่าง ที่ไม่ใช่เราฟังปุ๊บแล้วรู้ว่าคืออะไร ดังมากเป็นเสียงผู้ชาย แล้วหญิงเห็นร่างโปร่งใสนั่งขัดสมาธิ ค่อยๆ ลอยลงมา ในฝันหญิงเห็นตั้งแต่หัวเข่าลอยลงมา พร้อมเสียงสวดไปด้วย แป๊บนึงเท่านั้น เขาถอดเศียรลงมาครอบที่หัวของหญิง วินาทีนั้นหญิงรู้เลยว่าเป็นปู่ภุชงค์นาคราช เพราะที่ท่านถอดเศียรมาครอบให้เรา เป็นพญานาคเพียงหนึ่งเศียรที่อยู่บนเศียรของท่านอีกทีนึง เป็นปู่ภุชงค์ ตื่นมาก็บอกเขาเลย วันนั้นเรามาทำงาน ไปกิน ไม่ได้คิดว่าต้องไปมู สิ่งเรื่องราวเหนือธรรมชาติอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ไม่เคยฝันแบบนี้เลย หลังจากนั้นบินกลับมาไม่ถึงอาทิตย์ นาคา คอฟฟี่โทรฯมา ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์หลังฝันเห็นองค์พญานาค แล้วได้เป็นพรีเซ็นเตอร์กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เกี่ยวกับพญานาค ตัวนี้ก่อนหน้านี้หญิงเคยทานแล้ว เขาก็ไม่รู้หรอกว่าหญิงสั่งอยู่แล้ว อยู่ดีๆ ไงก็ไม่รู้ เขาติดต่อมาบอกว่าอยากร่วมงานกับหญิงจังเลย เพราะตอนสั่งคือคุณเอ ซึ่งถ้าใครติดตามหญิงจะรู้ว่าหญิงค่อนข้างเจ้าเนื้อมาก แต่ตอนนี้ภูมิใจตัวเล็กลงได้ รักตัวเองมาก ไม่เกี่ยวกับอายุเลย อยู่ที่ข้างในล้วนๆ เลยว่าเราจะทำมั้ย”
เอ เผยว่า “จุดเริ่มต้น จริงๆ เราเหมือนเป็นศิลปินด้วยกัน การร้องเพลงของเขาไม่เหมือนใคร เขาแทบไม่มีเงาเสียงเลย เราชอบสไตล์ของเขา น่าจะเหมือนหลายคนที่ชื่นชอบในตัวเขา 20 ปีได้ที่ชื่นชม ก็ไปตามในเฟซบุ๊ก ส่องโน่นนี่ เคยเจอกัน ทำไมไม่คุยกันตรงนี้ เหมือนไปงานเดียวกันแต่อยู่คนละที่กัน ช่วงนั้นเวลามีปลุกเสกจตุคาม จะต้องเอาศิลปินนักร้องไป ตอนนั้นเราชอบในผลงานของเขา ชอบทุกเพลง ตอนนั้นเขาโปรโมตทีละเพลง เพลงไหนออกมาเราก็ชอบ ตอนนั้นเราก็ต้องฟังเพลงเขาอยู่แล้ว เหมือนเราเป็นเพื่อนศิลปินกัน ก็ไปดู ไปกดไลก์เรื่อยๆ เรื่องที่เขาลบเราออกจากการเป็นเพื่อน เห็นโพสต์เขาไปทำบุญก่อน จะทักว่าวัดนี้เราเคยไป อ้าว ไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้ว ก็เลยทักไปถามเฉยๆ ว่าลบเพื่อนเหรอ (หัวเราะ) อีกใจเราก็อยากรู้ด้วยว่าอันนี้ตัวจริงหรือเปล่า บังเอิญเขาตอบ ตอบมาก็ยังไม่เชื่อ เราก็เลยลองโทรฯ (หัวเราะ) คุยก็ยังไม่เชื่อ ไหนร้องเพลงให้ฟังหน่อย เขาก็ร้องครับ (หัวเราะ) ตอนนั้นยังไม่มีใจ ยังครับ เราก็ฟีลเป็นเพื่อนก็ได้ ศิลปินเหมือนกัน หลังฟังเพลงแล้วเราก็ยังไม่เชื่อ นัดเดทเลยครับ นัดเดทฟีลเพื่อน เดทแรกคือวัดสังฆทาน (หัวเราะ)”
