จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันนำหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 แห่งใน จ.นนทบุรี ประกอบด้วย 1.บริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 61/462 หมู่ที่ 6 ปากซอยบางใหญ่ซิตี้ 6/3 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ 2.บจก.พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ ตั้งอยู่เลขที่ 77 หมู่ที่ 4 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนดำเนินการตรวจค้นเอกสารและพยานวัตถุต่าง ๆ เพื่อนำประกอบเข้าสำนวนคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดกว่า 10,000 ตู้ (หมู วัว ไก่) ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ก.พ. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนได้ทำการแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมสำหรับประกอบสำนวนคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีตีนไก่สวมสิทธิ โดยได้เข้าตรวจค้นบริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด และ บจก.พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ (โรงงานแช่เนื้อสัตว์และชิ้นส่วนสัตว์ขนาดใหญ่ ประเภทหมู ไก่ และวัว) ซึ่งทั้งสองแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ทั้งยังอยู่ในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) โดยการเข้าตรวจค้นก็เพื่อค้นหาและรวบรวมพยานวัตถุ พยานเอกสาร สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และทรัพย์สินอื่น ๆ และได้ทำการตรวจยึด อาทิ ซากสัตว์ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับขนสินค้าระหว่างประเทศ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคาร ใบถอนเงิน-ฝากเงิน เอกสารการโอนเงินระหว่างประเทศ เอกสารทางการเงิน เป็นต้น เป็นเหตุให้มีการขยายผลต่อเนื่องก่อนดำเนินการขอศาลอาญาออกหมายจับแก่บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทฯ และบางส่วนรับหน้าที่เป็นนอมินี จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด หรือ P-MART 2.น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ กรรมการผู้จัดการผู้จัดการ บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด 3.นายกิตติ ราชเนตร 4.นายภูวดล เกลียวจยกูล 5.นายพลภัทร สุขหน้าไม้ และหมายจับนิติบุคคล 4 หมายจับ ได้แก่ 1.บริษัท พีซี ฟูดส์ เซ็นเตอร์ จำกัด 2.บริษัท มั่นคง โฟรเซ่น จำกัด 3.บริษัท โคลเวอร์ซัพพลาย จำกัด 4.บริษัท โปรดักส์-มี จำกัด รวมทั้งสิ้น 9 หมายจับ ส่วนสาเหตุที่ออกหมายจับเนื่องมาจากทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับตู้คอนเทเนอร์ จำนวน 90 ตู้ ที่ตกค้างอยู่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยเกี่ยวข้องในจำนวน 25 ตู้ ซึ่งภายในบรรจุสินค้าแช่แข็งประเภทหมูและไก่ โดยสินค้าไม่ได้มีการเปิดตู้ออกของที่ท่าเรือฯ แต่นำเข้ามาในเขตปลอดอากร จากนั้นมีการอำพรางขายกระจายทั่วประเทศไทย

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับบุคคลในหมายจับนั้น ถือเป็นนายทุนรายใหญ่ และใหญ่กว่านายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า (ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีตีนไก่สวมสิทธิ) เนื่องจากกลุ่มคนตามหมายจับมีการจ่ายส่วยให้บุคคลที่ถูกระบุว่า “เฮียเก้า” โดยการจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร ยอดเงินเดือนละ 400,000 บาท พบรายการการจ่ายเงินเพียง 2 เดือนในห้วงปี พ.ศ. 2565 และที่สำคัญชิ้นส่วนสุกรครึ่งประเทศอยู่ที่โรงงานของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ ดีเอสไอสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย คือ 1.นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด หรือ P-MART โดยนายประกร มีพฤติการณ์รับรู้การจ่ายส่วยต่าง ๆ 2.น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด และ 3.นายพลภัทร สุขหน้าไม้ โดยในส่วนของนายพลภัทร พบว่ามีชื่อเป็นผู้จ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ คือ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ โดยจ่ายส่วยแบบรายเดือนและเป็นการจ่ายรายตู้ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ โดยชุดศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ จากการตรวจค้นบริษัทฯ เรายังพบเอกสารจดบันทึกรายการจ่ายเงิน หรือบัญชีส่วย บัญชีธนาคาร ซึ่งพบผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากทั้งนายตำรวจ ทหาร ปลัด เจ้าหน้าที่ของรัฐ และสื่อมวลชนบริเวณจังหวัดชายแดนที่บริษัทมีการส่งสินค้าข้ามแดนและรับสินค้าข้ามแดนอีกด้วย โดยเราจะเชิญบุคคลที่อยู่ในบัญชีส่วยทั้งหมดมาสอบปากคำในฐานะพยานต่อไป

“จากการเข้าตรวจค้นบริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด และ บจก.พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ ดีเอสไอจะเน้นการปราบปรามการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดโดยกลุ่มบริษัทเหล่านี้ เพราะอยู่ในพื้นที่เขตปลอดอากร อีกทั้งยังพบว่าชิ้นสุกรเถื่อนลอตสุดท้ายผ่านกลุ่มบริษัทเหล่านี้ด้วย” พ.ต.ต.ณฐพล ระบุ

พ.ต.ต.ณฐพล ระบุอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้ ฐานกระทำความผิดโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 มาตรา 244 และนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 68 ฐานฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 มาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 ประกอบมาตรา 60 มาตรา 61 ฐานเป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 ประกอบมาตรา 83

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลา 14.30 น. ของวันนี้ ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ เตรียมนำตัวผู้ต้องหารายแรกจากที่จับกุมได้ 3 ราย ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการทำบันทึกจับกุม มาส่งมอบให้กับคณะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบปากคำที่ห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ณ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ.