เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายภกร รงค์นพรัตน์ รองผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การค้าฯ ได้จัดทำแผนปลดหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมดขององค์การค้าฯ ให้ได้ภายใน 4 ปี ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป โดยปัจจุบันองค์การค้าฯ มีหนี้สิ้นอยู่ประมาณ 4,900 ล้านบาท และดำเนินการชำระหนี้มาตลอด ซึ่งในปีที่ผ่านมาองค์การค้าฯ ก็ได้มีการชำระหนี้ไปแล้ว 300 กว่าล้านบาท สำหรับการจัดทำแผนปลดหนี้ขององค์การค้าฯ นั้น จะดำเนินการทั้งแผนระยะสั้นและแผนระยะยาว ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ มีความเป็นห่วงเรื่องหนี้ขององค์การค้าฯ เป็นอย่างมาก และมอบหมายให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อให้องค์การค้าฯ มีสภาพคล่องทางการเงินได้ โดยขณะนี้องค์การค้าฯ มีที่ปรึกษาในการจัดทำแผนหารายได้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้องค์การค้าฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นเข้ามาอีกแน่นอน ส่วนทรัพย์สินขององค์การค้าฯ ที่มีอยู่ เช่น ที่ดินบนถนนลาดพร้าวนั้น เรายังไม่คิดที่จะขายที่ดินเหล่านั้น แต่คิดว่ามีรูปแบบวิธีการอื่นๆ ในการเพิ่มรายได้มากกว่า ไม่จะเป็นการปล่อยเช่าหรือการหาผู้ร่วมทุน ซึ่งหากมีการใช้ประโยชน์จากที่ดินเหล่านี้ได้ ก็จะทำให้เราชำระหนี้ได้ไวมากขึ้น

รอง ผอ.องค์การค้าฯ กล่าวต่อไปว่า ส่วนร้านค้าศึกษาภัณฑ์ขององค์การค้าฯ ที่เหลืออยู่ 7 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่ 9 แห่งนั้น ขณะนี้การดำเนินการของร้านค้าศึกษาภัณฑ์ที่มีอยู่ 7 แห่ง ยังมีรายได้ที่เป็นกำไรประมาณ 3-5 ล้านบาท ส่วนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 นี้ ร้านศึกษาภัณฑ์ทุกแห่งยังคงตรึงราคาชุดนักเรียนและแบบเรียนอยู่เดิมเหมือน เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ นอกจากนี้ องค์การค้าฯ ยังจะมีการดำเนินการจัดทำสื่อการเรียนรู้แบบดิจิทัล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนโครงการประเมินผลนักเรียนระดับนานาชาติ หรือ พิซา ด้วย เพราะการสอบพิซาเป็นการสอบแบบคิดวิเคราะห์ใช้ความเชื่อมโยง ดังนั้นสื่อที่เราจะผลิต จะมาตอบโจทย์เรื่องดังกล่าว เพื่อให้เด็กใช้งานง่ายและมีความสะดวกต่อการเรียนรู้