เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ มูลนิธิ “เป็นหนึ่ง” พาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หลังถูกอดีตแฟนเป็นนายตำรวจคอมมานโด ที่เลิกคบกันไปประมาณ 1 ปี ได้ทักมาข่มขู่ขอมีความสัมพันธ์ด้วย ซ้ำยังปล่อยคลิป 18+ ของผู้เสียหายลงโซเชียล มีคนดูคลิปแล้วกว่า 20 ล้านวิว ผู้เสียหายเคยเข้าแจ้งความและร้องไปทางต้นสังกัดแล้ว แต่เรื่องเงียบคดีไม่มีความคืบหน้า

น.ส.ต้นอ้อ กล่าวว่า ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหาย เพื่อขอความช่วยเหลือและเรียกร้องความยุติธรรม ว่าถูกอดีตแฟนหนุ่มที่เคยเป็นแฟนกัน ซึ่งเป็นนายตำรวจสังกัดคอมมานโด ที่เลิกกันไปแล้วกว่า 1 ปี และตัวผู้เสียหายก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่แล้ว โดยนายตำรวจคนดังกล่าว ได้ทักมาขอมีความสัมพันธ์ หากไม่ยอมออกมาก็ข่มขู่นำคลิปวิดีโอที่เคยมีสัมพันธ์กันช่วงที่คบเป็นแฟน มาโพสต์ลงในโซเซียล ซึ่งผู้เสียหายกังวลและไม่อยากให้สามีรับรู้ แต่อดทนไม่ไหวกับการต้องถูกข่มขู่ จึงปรึกษากับครอบครัวและติดต่อมาทางมูลนิธิต้นอ้อ เพื่อต้องการดำเนินคดีกับตำรวจนายดังกล่าว โดยทราบมาว่า ก่อนหน้านี้นายตำรวจคนดังกล่าวยังเคยไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายอีก 1 คน เมื่อ 4 ก.พ. ด้วยการชดใช้ 4 แสนบาท และจ่ายมาแล้ว 3 แสนบาท โดยทางผู้บังคับบัญชาก็ไปด้วบ และขอให้ยอมความเพราะทำอะไรไม่ได้ คลิปลงไปแล้ว แต่น้องผู้เสียหายคนนี้ รวบรวมความกล้าเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง เพราะนายตำรวจคนนี้ไม่ได้กระทำกับผู้เสียหายคนเดียว โดยตอนนี้มีผู้เสียหายอีก 3 ราย ติดต่อมาทางมูลนิธิ ถูกส่งข้อความส่งคลิปไปลงใน VK แม้จะอ้างว่าเป็นช่องส่วนตัว แต่คนอื่นเข้าไปดูดคลิปได้ต้องเสียเงิน จึงมองว่าเข้าข่ายเป็นการค้าหรือไม่ ซึ่งตอนนี้มีคนดูมากกว่า 20 ล้านวิว โดยการกระทำของนายตำรวจคนนี้ ไม่ได้รู้สึกสำนึกผิด เพราะวันที่ 4 ก.พ. ไปไกล่เกลี่ยอีกเคส และวันที่ 6 ก.พ. ยังคงเอาคลิปไปลงต่อ ไม่สนใจความเสียหายที่เกิดกับฝ่ายหญิงที่สภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะคิดว่าเจ้านายเคลียร์ให้ได้ใช่หรือไม่ จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการตำรวจคนดังกล่าวอย่างจริงจัง อย่าให้ปลาเน่าตัวเดียวเสียหายทั้งข้อง เพราะทำให้วงการสีกากีเสื่อมเสีย พร้อมเรียกร้องให้ผู้เสียหายรายอื่น ออกมาปกป้องสิทธิของตนเอง เพราะเชื่อว่ามีมากกว่า 4 ราย แน่นอน

ด้าน ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้จักคบหากับนายตำรวจคนดังกล่าว เมื่อต้นปี 2565 โดยอาศัยอยู่ด้วยกันที่แฟลตแห่งหนึ่ง ในช่วงแรกฝ่ายชายดูแลเอาใจใส่ดี แต่จะมีเรื่องนิสัยเจ้าชู้และมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาตลอด ในช่วงที่มีความสัมพันธ์กัน ยอมรับว่ามีการถ่ายคลิปไว้ แต่ด้วยความรักจึงเชื่อและไว้ใจฝ่ายชาย ไม่คิดว่าจะถูกทำร้าย หลังเลิกราก็ไม่ได้พบกันอีก แต่มีการพูดคุยแชตกันทางไลน์ จากนั้นฝ่ายชายก็ขอให้ออกไปหา เพื่อขอมีความสัมพันธ์ พอไม่ไป ก็ส่งคลิปวิดีโอมาข่มขู่ เคยร้องไปที่ต้นสังกัด และหากขู่อยู่ ก็จะไปขอความช่วยเหลือจากทางผู้บังคับบัญชา แต่กลับถูกขู่กลับว่าจะส่งคลิปและภาพโป๊เปลือยของตนเองให้ที่ทำงานของตนเองให้ได้รับความเสียหาย และยังดูถูกอาชีพของตนเองที่ทำอยู่ด้วย พร้อมย้ำว่านายตำรวจคนดังกล่าว ไม่มีแม้แต่ความเป็นผู้ชาย ไม่ควรจะอยู่ในองค์กรตำรวจต่อไป จึงต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนคลิปวิดีโอที่เอาไปลงและข่มขู่ มียอดวิวอยู่ 9 วิว และอ้างว่าลงส่วนตัว จากนั้นมีคนใกล้ตัวทักมาบอกว่า คลิปถูกเผยแพร่สาธารณะ ซึ่งส่งผลกระทบทุกอย่างในชีวิต ทั้งด้านการงานและครอบครัว ตลอดจนทุกวันนี้ยังคงใช้ชีวิตแบบผวาและจิตตกมาก หลังเกิดเรื่องและแจ้งความ ยังไม่มีการติดต่อขอโทษจากปากของฝ่ายชาย หลังทราบว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายราย มองว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่พฤติกรรมที่คนเขาทำกัน

ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ ผบ.ตร. กำชับและให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ในส่วนของคดี ผู้เสียหายได้แจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี วันที่ 6 ก.พ. มีการแจ้งข้อหาเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหากพบว่ามีพฤติการณ์อื่นที่เข้าข่ายความผิด ก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนสำนวนการสอบสวนทำอย่างละเอียดรอบคอบและรวดเร็ว ส่วนเรื่องการดำเนินการทางวินัย ต้นสังกัดกองปฏิบัติการพิเศษฯ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ทราบเรื่องและกำชับให้ทำตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. มากำกับดูแลเรื่องวินัยแล้ว จึงขอให้ผู้เสียหายมั่นใจ พร้อมย้ำว่าพฤติการณ์แบบนี้ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน กินในที่ลับมาขายในที่แจ้ง ถือว่าเป็นพฤติกรรมอันเลวร้ายและยังเป็นถึงข้าราชการตำรวจ แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์ ตร. อย่างรุนแรง ส่วนคนที่ดูคลิป หากส่งต่อถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนคลิปที่เผยแพร่ออกไป จะให้พนักงานสอบสวนทำเรื่องไปยังกระทรวงดีอี ขอใช้คำสั่งศาลปิดกั้นต่อไป.