วันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค. นี้ จะมีศึกวันแดงเดือดนอกรอบ ระหว่าง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

เทียบฟอร์มแล้ว ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล ดูดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างชัดเจน แม้ว่าเกมล่าสุด ลูกทีมของ เอริค เทน ฮาก จะเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน และยังมีลุ้นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ก็ตาม

ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน นั้น ฌอน ไดช์ ผู้จัดการทีมของพวกเขา ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ลูกทีมทำทุกอย่างแล้ว เพื่อทำประตู และสร้างโอกาสได้มากมาย ขาดอย่างเดียวคือส่งบอลเข้าประตู

การปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสยิงประตู คือปัญหาสำคัญที่ เทน ฮาก จะต้องแก้ให้ลูกทีมให้ได้ เพราะในเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยให้ เอฟเวอร์ตัน มีโอกาสยิงถึง 23 ครั้ง

เอฟเวอร์ตัน ยิงไม่ได้ก็จริง แต่พวกเขาคือทีมที่ยิงได้น้อยที่สุดอันดับ 3 ของลีก ถ้าหากเจอทีมที่เกมรุกคมกว่า ผีแดง จึงแพ้ได้ทุกเกม

ฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสยิงไปแล้วถึง 468 ครั้ง และมีแค่ทีมบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามล่อเป้ามากกว่าคือ 503 ครั้ง

ถ้านับเฉพาะ 10 เกมหลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยให้คู่แข่งยิง 185 ครั้ง ขณะที่ อาร์เซนอล และ แมนฯ ซิตี ปล่อยให้คู่แข่งยิงทั้งฤดูกาล 232 ครั้ง

แม้แต่เกมที่เจอกับ นิวพอร์ต เคาน์ตี จากลีกทู ในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อเดือน ม.ค. ผีแดง ก็ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสยิงถึง 17 ครั้ง

ฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดโอกาสให้คู่แข่งยิง 428 ครั้ง ใน 38 เกมพรีเมียร์ลีก เฉลี่ยแล้ว 12.6 ครั้งต่อเกม แต่ฤดูกาลนี้ กระโดดขึ้นเป็น 16.7 ครั้งต่อเกม

โดยเฉพาะใน 10 เกมหลัง พวกเขาปล่อยให้ทีมตรงข้ามยิงมากกว่า 20 ครั้งทุกเกม

ชัดเจนว่า นี่คือปัญหาใหญ่ที่ เทน ฮาก และลูกทีม ต้องแก้ไขให้ได้ ถ้าหากแก้ไม่ได้ ดูแล้วจะรอดยาก.