นางนาเดีย โอมาร์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แอร์ เอเชีย มูฟ (AirAsia MOVE) แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ เปิดเผยว่า แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ ได้รีแบรนด์ใหม่ มาเป็น แอร์ เอเชีย มูฟ  โดยได้ปรับโฉมรูปแบบแอปและสีใหม่เป็นสีเขียว พร้อมวางกลยุทธ์ธุรกิจแบบใหม่ ในฐานะแพลตฟอร์ม ตัวแทนด้านการจองท่องเที่ยวออนไลน์ (โอทีเอ) ภายใต้คอนเซปต์เที่ยวคุ้ม เดินทางครบ จบในแอปเดียว โดยแอปใหม่มีจุดเด่นที่แตกต่างจากโอทีเอในตลาด คือ จะมีเที่ยวบิน ที่พักโรงแรม และมีการแจกตั๋วโดยสารในแชต นอกจากนี้ ยังมีอีวอลเล็ต คือ บิ๊กเพย์ ถือเป็นเจ้าเดียวในด้านท่องเที่ยว ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่าย และยังมีโปรแกรมสะสมคะแนนด้วย

“หากผู้ใช้งานเข้ามาจองตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก จะได้ข้อเสนอในราคาประหยัดและถูกกว่าจองกับแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีบริการจองรถรับส่งจากสนามบินเข้าเมือง รวมถึงสามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีหรือดิวตี้ฟรี ผ่านแอป แล้วไปรับสินค้าบนเครื่องได้ด้วย นอกจากนี้ จะมีการนำเสนอราคาและข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะบนแอปอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.เป็นต้นไป โดยปัจจุบัน แอร์ เอเชีย มูฟ มียอดคนใช้งานในไทย 2 ล้านคน ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ จะช่วยเพิ่มผู้ใช้งานเป็น 4 ล้านราย และขึ้นเป็นผู้นำแพลตฟอร์มตัวแทนด้านการจองท่องเที่ยวออนไลน์ ในไทยได้อย่างแน่นอน”

นางนาเดีย กล่าวต่อว่า สำหรับการที่ภาครัฐตั้งเป้าหมายจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 35 ล้านคน เชื่อว่าจะมีความเป็นไปทำได้ เพราะปัจจุบันไทยยังไม่ได้พึ่งตลาดนักท่องเที่ยวจากจีนเท่านั้น นักท่องเที่ยวจากตลาดอินเดีย ก็เข้ามาในไทยมากขึ้น ซึ่งจากการทำตลาดโปรแกรม อาเซียน อินเตอร์เนชั่นแนล พลาส จะทำให้ทุกคนสามารถบินได้ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึง โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.เป็นต้นไป โดยปัจจุบันเส้นทางที่คนไทยนิยมเดินทาง คือ ญี่ปุ่น เกาหลี บาหลี ขณะที่ในไทย คือ เส้นทางกรุงเทพฯ  ภูเก็ต  และเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งภูมิภาคอาเซียนถือเป็นจุดหมายปลายทางหลักที่คนชอบเดินทางมาเที่ยว ทั้งนักท่องเที่ยวที่มาจากภูมิภาคอื่น และนักท่องเที่ยวในอาเซียนที่เดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศกันเอง.