ที่ห้องประชุมชากังราว องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร นายสุนทร รัตนากร นายก อบจ.กำแพงเพชร ได้เป็นประธานในการรับมอบปูนและอุปกรณ์การก่อสร้างถนนคอนกรีต โดยมีผู้บริหาร ผู้นำท้องถิ่น ผู้แทนภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชนร่วมด้วย

นายสุนทร รัตนากร ได้เล่าให้ฟังว่า บ้านโละโคะ บ้านป่าคา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอโกสัมพีนคร บนอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อยู่ในเขตอำเภอโกสัมพีและคลองลาน ทั้งสองหมู่เป็นพื้นที่ห่างไกลจากวิถีชีวิตคนเมือง เป็นสถานที่ที่คงไว้ซึ่งอารยธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไทยภูเขา มากกว่า 1 เผ่าพันธุ์ มีวิถีชีวิตหลักคือการทำเกษตรกรรม ภายในหมู่บ้านไม่มีแม้เสาไฟฟ้า น้ำประปา ถนนหนทางสัญจรสัญจรยากลำบาก เรียกว่ากว่าจะขึ้นถึงโละโคะ ป่าคา ต้องผ่านเส้นทางธรรมชาติที่ต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญในการขับขี่ยานพาหนะพิเศษ ชาวบ้านป่าคาและโละโคะอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในวิถีชีวิตที่มีทั้งดั้งเดิม และร่วมสมัยปะปนกัน โดยหลายปีที่ผ่านมา ตนเองและทีมงานทั้งคณะเดินทางไปเยี่ยมเยียน พบปะพูดคุย หาแนวทางพัฒนามาโดยตลอด สิ่งที่พี่น้องประชาชนบนพื้นที่สูงอยากได้รับการพัฒนามากที่สุด ยังคงเป็นเรื่องการพัฒนาด้านถนน เส้นทางคมนาคมที่สภาพค่อนข้างยากลำบาก ที่สำคัญ บ้านป่าคา-บ้านโละโคะ เป็นแหล่งผลิตพืชผักผลิตผลทางการเกษตรหลากหลายชนิดแหล่งใหญ่ ที่ส่งมาจำหน่ายในตลาดศูนย์การค้า และตลาดใหญ่ในอีกหลายแห่ง การลำเลียงสินค้าทางเกษตรเป็นรถยนต์กระบะ ที่มีการลำเลียงไม่น้อยกว่า 300 คัน แต่ด้วยสภาพเส้นทางที่ค่อนข้างลำบาก ทำให้การขับขี่ต้องใช้ทักษะค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนสภาพพื้นดินเป็นดินเหนียว ถนนจะมีความลื่น เสี่ยงต่ออันตรายเป็นอย่างมาก และสินค้าทางการเกษตรอาจได้รับความเสียหายไปด้วย แต่ด้วยข้อจำกัดของข้อกฎหมายของอุทยานฯ และพื้นที่ป่า ที่จะต้องอยู่ด้วยกันภายในอุทยานฯ ได้อย่างมีความสุข ทุกอย่างจึงอยู่ตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด ขอบเขตในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนนหนทาง จึงถูกตีกรอบอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติและผืนป่า แต่วิถีของพี่น้องที่อยู่บนพื้นที่สูง ก็คงจะต้องเดินหน้ากันต่อไป การพัฒนาจึงเกิดขึ้นตามที่ข้อกฎหมายเปิดให้ เด็ก เยาวชน ประชาชนจึงได้รับโอกาสแห่งความเท่าเทียมในหลายด้านที่เข้าถึง ยกเว้นเส้นทางการคมนาคม แม้ว่าจะมีบางช่วงบางตอนที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทางตามช่วงฤดูกาลก็ตามที แต่ความตั้งใจในการต้องการพัฒนาให้พี่น้องประชาชนบนที่ราบสูง ได้มีโอกาสใช้เส้นทางสัญจรที่ปลอดภัยขึ้น สะดวกขึ้น ก็ยังไม่ได้ท้อถอยแต่อย่างใด

นายสุนทร ยังได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมาตนเองได้ใช้งบในการพัฒนาถนนหนทางไม่น้อยกว่าพันล้าน ในเขตจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรไปมาอย่างสะดวกสบาย แต่เสียดายทำได้ในบางส่วนของการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยบนพื้นที่สูงเท่านั้น แต่เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ภายใต้ข้อกฎหมายที่เราต้องเคารพ ความต้องการทราบถึงทุกข์ สุข และความต้องการต่างๆ ของชาวไทยภูเขา ที่ต้องการให้ดูแล และพัฒนา ผสมกับเสียงสะท้อน และความต้องการของผู้นำชุมชน ของประชาชน ในการต้องการให้แก้ปัญหาเส้นทางคมนาคม เมื่อยากต่อการนำงบหลวงไปพัฒนาแล้วนั้น ขณะเดียวกัน แรงห่วงใยยังคงมีอยู่ นำมาซึ่งแรงศรัทธา จึงเกิดขึ้นตามมาของพี่น้องประชาชน ส่วนราชการ สถานประกอบการ ห้างร้านเอกชนต่างๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร ที่จะช่วยกันพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง จึงเกิดการระดมทุนซื้อปูน นำไปซ่อมเส้นทางชนิดคอนกรีต 2 ช่องทางเดินรถ หรือถนน 2 ล่องล้อ ที่เสียหาย ซึ่งบางจุดติดกับหน้าผาสูงชัน เช่น โค้งพับผ้า เป็นโค้งที่มีความอันตรายมาก วิธีการซ่อมแซมด้วยกำลังคนจึงเกิดขึ้น กลายเป็นปรากฏการณ์น้ำใจของคนในท้องถิ่น กลับมาพัฒนาบ้านตนเอง ภายใต้การนำของ นายสุนทร รัตนากร กับการที่เคยเป็นผู้ให้ วันนี้หลายหน่วยงานหลายคนที่ทราบข่าวที่สะท้อนของผู้ที่รับการช่วยเหลือ ต่างเดินทางมาร่วมบริจาควัสดุสิ่งของที่จำเป็นในการก่อสร้างแก้ปัญหาจำนวนมาก จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ได้ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองเรา ให้พี่น้องประชาชนที่ทนลำบาก มีการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นได้ต่อไป

ด้านนายสุนทร จันทร์คีรีรุ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านป่าคา พูดถึงบ้านป่าคาว่า ปัจจุบันมีประชากร 1567 คน เป็นชุมชนสุดท้ายอยู่ติดกับน้ำตกเต่าดำ ปัญหาที่หนักที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ด้านในคือ การสัญจร การเดินทาง การขนส่งสินค้าทางการเกษตรมาสู่ภายนอก ยิ่งฤดูฝน เพราะด้านในเป็นดินเหนียวจะลื่นมาก จึงอยากได้รับการแก้ไขปัญหาเรื่องถนนให้กับพี่น้องประชาชนทั้ง 3 หมู่บ้าน ยิ่งเวลาที่มีคนป่วย หรือคลอดลูก ไม่มีใครเดินทางมาถึงโรงพยาบาลสักคน คลอดลูกกลางทาง ระยะทาง 29 กิโลเมตร ไม่ได้เป็นระยะทางที่ไกลมาก แต่ถนนหนทางที่ลำบาก ทำให้ใช้ระยะเวลาเทียบเท่ากับจากจังหวัดกำแพงเพชรเดินทางไปจังหวัดลำปาง

ทั้งนี้ การดำเนินการก่อสร้างในระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2567 นี้ นายสุนทร รัตนากร พร้อมด้วยคณะผู้มีจิตศรัทธา จะได้ร่วมกันเดินทางไปที่หมู่บ้านป่าคา โดยจะปิดหมู่บ้าน 3 วัน อันเนื่องจากไม่มีเส้นทางเบี่ยง พร้อมใช้แรงงานพี่น้องประชาชนภายในหมู่บ้าน ทำถนนในจุดเสี่ยงของหมู่บ้าน เพื่อให้การสัญจรไปมาได้สะดวกมากยิ่งขึ้นต่อไป