เมื่อวันที่ 19 มี.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาลเชียงราย จ.เชียงราย ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรนอกสถานที่ เมื่อเร็วๆ นี้นั้น โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่ มีนักเรียนประมาณ 2,000 คน ซึ่งเป็นการบริหารสถานศึกษาแบบภาคีเครือข่าย ทั้งผู้บริหารโรงเรียน คณะครู และสมาคมผู้ปกครองที่เข็มแข็งและมีระบบการจัดการที่ดีเยี่ยม ซึ่งนักเรียนมีความสามารถกล้าแสดงออกอย่างหลากหลาย ดังนั้นถือเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้ตนเห็นว่า เราจะยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างไร ให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งหมด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานี้ให้ได้ 

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในส่วนของโรงเรียนที่ขาดความพร้อมทางด้านการจัดการเรียนการสอน เรามีแนวทางยกระดับคุณภาพโรงเรียน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของตนอยู่แล้ว คือ นโยบาย 1 โรงเรียน 1 คุณภาพชุมชนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา โดยมีกระบวนการดำเนินการหลายมิติไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกับท้องถิ่น เช่น ที่ผ่านมา ศธ. ทำความร่วมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นนทบุรี ในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนระดับชุมชนให้มีความเข็มแข็งด้วยการเติมครูครบชั้น สื่อเทคโนโลยีการเรียนการสอนที่ทันสมัย การสร้างทักษะอาชีพ ซึ่งขณะนี้ จ.นนทบุรี มีโรงเรียนที่มีคุณภาพครบทุกจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ การเป็นโรงเรียนคุณภาพชุมชนในอนาคตจะต้องเป็นโรงเรียนแม่ข่ายที่ใช้ทรัพยกรร่วมกันกับโรงเรียนในพื้นที่ได้ด้วย รวมถึงความร่วมมือกับโครงการคอนเนกซ์อีดี ที่อยากให้เข้ามาช่วยสนับสนุนการจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก โดย ศธ. จะจัดทำเว็บไซต์เป็นแพลตฟอร์มขึ้น หากโรงเรียนไหนขาดอะไร ก็ให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุนได้

“สำหรับช่วงปิดเทอมนี้นั้น ผมได้กำชับให้สถานศึกษาทุกแห่ง วางแผนงานเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษาใหม่ 2567 ด้วย โดยเฉพาะการจัดพิมพ์แบบเรียน จะต้องจัดพิมพ์ให้เสร็จและจัดส่งให้ถึงโรงเรียนก่อนเปิดเทอม ขณะเดียวกันจะวางแนวทางป้องกันปัญหายาเสพติดและเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า จะกวดขันให้มากขึ้น และเป็นมาตรการสำคัญที่ห้ามมีเรื่องยาเสพติดทุกประเภทภายในสถานศึกษา ซึ่งผมคาดหวังว่าเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ในปีการศึกษานี้ ผู้เรียนจะมีเกราะป้องกันที่เข็มแข็งจากสถานศึกษา” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว