จากกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. เป็นประธาน เพื่อดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามที่ได้รับรายงานผลการตรวจสอบของ “คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน” ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 225/2563 ที่มี ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธาน หรือคดีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 29 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ได้แต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จตร. พล.ต.ต.อนุชา รมนะนันท์ รอง ผบช.สกพ. พ.ต.อ.เอกรินทร์ อิทธิวัฒนะ รอง ผบก.กต.1 พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รอง ผบก.กต.8 พร้อมคณะทำงานทั้งหมดเพื่อวางแนวทางการสืบสวน ซึ่งเป็นการดำเนินการสืบเนื่องจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานของ ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นใหม่

โดยเปลี่ยนให้ พล.ต.อ.วิสนุ เป็นประธาน แทน พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จเรตำรวจ (หน.จต.) ที่เป็นประธานอยู่เดิม เนื่องจากมีการกล่าวหาข้าราชการเพิ่มเติมคือ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีตผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร์ (สบ5) กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.ฝอ.บก.อก.สทส.อดีตพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด มีการถกกันในข้อกฎหมายถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดใหม่ ตามที่ได้หารือไปยังกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนได้ข้อสรุปว่าคณะกรรมการชุดปัจจุบันมีอำนาจที่จะดำเนินการได้ตามกฎหมายต่อเนื่องจากที่คณะกรรมการชุดเดิมเคยทำไว้ นอกจากนี้ที่ประชุมยังหยิบยกคำชี้แจงข้อกล่าวหาของ พล.ต.อ.มนู พล.ต.ต.ธวัชชัย พ.ต.อ.วิวัฒน์ และ พ.ต.อ.วิรดล ที่ได้ทำคำชี้แจงส่งเข้ามาพิจารณาประกอบกับพยานหลักฐานที่เคยสืบสวนไว้ในสำนวนเดิม รวมถึงประเด็นคลิปเสียงที่พ.ต.อ.ธนสิทธิ อ้างเป็นพยานด้วย

ในที่สุดที่ประชุมได้มีมติให้ทำการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่อ้างว่ามีการสอบสวน พ.ต.อ.ธนสิทธิ เพื่อเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอสกระทิงแดง จากเดิมที่ความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้เหลือเพียง 76 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเป็นเหตุให้พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. และนายธนิต บัวเขียว ทนายความของนายวรยุทธ และให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อถอดข้อความจากคลิปเสียงให้ละเอียดรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงให้มีการสืบหาตัวบุคคลที่ระบุว่าเป็นอัยการและร่วมอยู่ในขณะที่มีการสอบสวนปากคำเพื่อเปลี่ยนความเร็วดังกล่าวด้วยว่าเป็นผู้ใด เพื่อจะได้เชิญมาสอบปากคำต่อไปด้วย

พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ได้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการทุกคนแสดงความเห็นอย่างอิสระ โดยตนให้นโยบายในการทำงานของคณะว่า ให้มุ่งเป้าหมายเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเห็นเรื่องความเร็วของรถยนต์ในคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ดังนั้นหากพยานหลักฐานพาดพิงไปถึงใครก็จะต้องเชิญมาให้ข้อมูลทุกคน ส่วนรายละเอียดในการสืบสวนไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ขอให้มั่นในว่าคณะกรรมการชุดที่ตนเป็นประธานจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และท้ายที่สุดผลการสืบสวนจะต้องตอบสังคมได้ในทุกประเด็น

โดยล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้อนุมัติขยายเวลาการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการที่มี พล.ต.อ.วิสนุ เป็นประธานนี้ จนถึงวันที่ 10 พ.ย.2564 ดังนั้นจึงเชื่อว่าผลการสืบสวนน่าจะสรุปได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนก่อนถึงกำหนดดังกล่าวก็ได้