เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเฉลิม ฉิมครบุรี ผู้ใหญ่บ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 8 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้นำน้องไม้ ลูกสุนัขจิ้งจอก เพศผู้ วัยเดือนเศษ ใส่ตะกร้ามาเข้าเวรจุดบริการประชาชนที่ว่าการอำเภอครบุรี ภายหลังจากที่ได้รับการประสานจากทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ว่าจะเดินทางมารับน้องไม้ เพื่อนำกลับไปดูแลต่อยังศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า

โดย นางเฉลิม ฉิมครบุรี ผู้ใหญ่บ้านหนองโบสถ์ บอกว่า เจ้าลูกสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ มีชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองโบสถ์ ได้ยินเสียงร้องออกมาจากโพรงดินใต้ตอไม้ บริเวณตีนเขามะค่า ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี หลังจากเกิดเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ ตั้งแต่เมื่อประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่ทางผู้ใหญ่บ้านและสามีจะไปตรวจสอบ แล้วพบว่ามีลูกสุนัขที่ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเป็นสุนัขจิ้งจอก ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ในโพรงใต้ดินรวมทั้งหมด 4 ตัว เป็นเพศผู้ 1 ตัว และเพศเมีย 3 ตัว โดยไม่มีร่องรอยของแม่สุนัขอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเลย จึงช่วยเอามาดูแล เพราะเกรงว่าลูกสุนัขจะอดอาหารและทานความร้อนไหวเสียชีวิต เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ยังคุกรุ่นไปด้วยไอของไฟป่า พร้อมกับประสานไปยังทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ให้ช่วยตรวจสอบว่าเป็นสุนัขบ้านหรือสุนัขป่า เพราะพฤติกรรมการออกลูกในโพรงดินนั้น ไม่น่าจะเป็นสุนัขบ้านทั่วไป

อีกทั้งลักษณะทางกายภาพของลูกสุนัข ก็ยังผิดไปจากสุนัขบ้าน เพราะส่วนหัวและลำคอยาวผิดปกติกว่าลูกสุนัขทั่วไป แต่ในตอนแรกลูกสุนัขยังเล็กเกินไปจนไม่สามารถระบุได้ เพราะตอนนั้นลูกสุนัขยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ ทางผู้ใหญ่จึงต้องเลี้ยงดูแลลูกสุนัขทั้งหมดเอาไว้ก่อน โดยให้กินนมแพะ ก่อนตั้งชื่อ หมอก เมฆ เม่น ไม้ เพื่อให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลูกสุนัขไม่แข็งแรง ทำให้ทยอยตายลงจนเหลือเพียง “เจ้าไม้” ซึ่งเป็นเพศผู้เพียงตัวเดียวเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ได้เดินทางมาพิสูจน์ทราบจนแน่ใจแล้วว่า “เจ้าไม้” เป็นลูกสุนัขจิ้งจอกแน่นอนแล้ว เนื่องจากช่วงปากและจมูกแหลมยาว หูใหญ่ชี้ตั้งกว่าลูกสุนัขทั่วไป จึงขอรับตัวกลับไปดูแลยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อให้การดูแลอย่างถูกวิธี และจะได้เตรียมความพร้อมที่จะปล่อยกลับคืนสู่ป่าเมื่อพร้อมต่อไป.