เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 20 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระ 2-3  ในมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม ที่ กมธ.ปรับลดเหลือ 85,398,193,600 บาท จากที่เสนอมา 87,883,290,100 บาท  ส่วนใหญ่อภิปรายโจมตีงบประมาณที่มีการซ่อนเร้น ซ่อนเงื่อน อ้างเป็นงบลับ ไม่ให้มีการตรวจสอบ อาทิ นายชยพล สะท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงงบประมาณกองทัพบกในการจัดซื้อที่นอนยางพาราขนาด 3 ฟุต หนา 4 นิ้ว จำนวน 277 ชิ้น วงเงิน 1,246,500 บาท ตกชิ้นละ 2,885 บาท ทั้งที่ราคาในแอปสีส้มอยู่ที่ชิ้นละ 1,449 บาทเท่านั้น หรือการจัดซื้อกรวยแสดงทิศทางลม 25 ชุด ราคา 450,000 บาท ตกชุดละ 18,000 บาท แต่ราคาในแอปสีส้มอยู่ที่ชุดละ 4,300 บาท ทั้งที่มีลักษณะเป็นแค่ธงปลาคาร์ป ไว้แสดงทิศทางลม แต่งบประมาณเหล่านี้เอาไปซ่อนอยู่ในเอกสารลับ ไม่ให้ตรวจสอบ อ้างเป็นงบลับเพื่อความมั่นคง ให้ไปถามสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เอง เหมือนตีเช็กเปล่า ไม่มีข้อมูลใดๆ อยากรู้เป็นความมั่นคงของประเทศ กองทัพ หรือความมั่นคงเพื่อความมั่งคั่งของใคร

ขณะที่ ร.อ.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการตัดลดงบประมาณการจัดซื้อเรือฟริเกต 1 ลำ วงเงิน 17,000 ล้านบาท มีเหตุผลใด กองทัพเรือต้องไม่ใช่เหยื่อการเมือง การจัดงบแบบนี้อาจเกิดวิกฤติในกองทัพ ทำให้กำลังพลน้อยใจ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายว่า งบประมาณกระทรวงกลาโหมที่ระบุปรับลดงบ 2,485 ล้านบาท หรือลดลง 2.8% ปรับลดไม่จริง เพราะถูกเอาไปซ่อนอยู่ในรายการของงบผูกพันปี 2568-2569 เช่น งบกองทัพเรือมีโครงการผูกพัน 9 โครงการ ตั้งแต่ปี 2557-2574 เป็นงบประมาณรวม 44,618 ล้านบาท หรือกองทัพอากาศบอกปรับลดงบประมาณ 103 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า มีงบผูกพันใหม่ตั้งแต่ปี 2568-2570 มากถึง 5,709 ล้านบาท  รวมแล้วงบประมาณทั้ง 3 เหล่าทัพ ลดไม่จริง เพราะไปอยู่ในงบผูกพันปี 2568-2570 ที่เป็นโครงการใหม่รวมแล้ว 36,231 ล้านบาท เป็นงบกองทัพบก  9,641 ล้านบาท กองทัพเรือ 20,879 ล้านบาท กองทัพอากาศ 5,709 ล้านบาท

ด้านนายธเนศ เครือรัตน์ กมธ.วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ชี้แจงว่า ขอชี้แจงในส่วนงบผูกพันกองทัพ กรณีงบผูกพันกองทัพอากาศ 10 โครงการ กว่า 6,000 ล้านบาทนั้น กมธ.ได้ท้วงติงกับกองทัพอากาศในเรื่องดังกล่าว กองทัพอากาศยืนยันถึงความจำเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของนักบินและผู้โดยสารที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เช่น โครงการปรับปรุงเครื่องยนต์ 32 เครื่องยนต์ ของเครื่องบินซี 130 จำนวน 8 เครื่อง ถึงเวลาต้องปรับปรุง โครงการพัฒนาขีดความสามารถซ่อมบำรุงเครื่องยนต์แบบที2  ที่กองทัพอากาศยืนยันต้องปรับปรุงภายในปีนี้ มีการจัดหาชิ้นส่วนระบบสละอากาศยนต์ฉุกเฉินคือ เก้าอี้ดีดตัว ที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยน ส่วนการตัดงบประมาณจัดซื้อเรือฟริเกต 1 ลำ วงเงิน 17,000 ล้านบาทนั้น เนื่องจากกองทัพเรือไม่มีทีโออาร์ชัดเจนจะจัดซื้อจากประเทศใด เกรงว่าจะเกิดปัญหาเหมือนเรือดำน้ำ จึงให้ตัดงบประมาณจัดซื้อเฉพาะในส่วนปี 2567 ยืนยันว่า กมธ.ยังเห็นถึงความจำเป็นการมีเรือฟริเกต แต่ให้ไปจัดซื้อในปีถัดไป ยืนยันว่า การปรับลดงบประมาณจะไม่กระเทือนถึงประสิทธิภาพของหน่วยงานในการป้องกันประเทศ 

หลังจากอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว ที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบมาตรา 8 ตามที่กมธ.เสนอมา.