เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ “รมณียพุทธอุทยาน” บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)​ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีพิธีอัญเชิญพระพุทธปฏิมา “พระพุทธมหาจุฬาลงกรณชุตินธรบวรศาสดา” ประดิษฐานบนฐานชุกชี โดยมี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พระพรหมวชิราธิบดี นายกสภามหาวิทยาลัย พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี พระเทพปวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ศ.พิเศษ จำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต ร่วมพิธี

ทั้งนี้ น.ส.เพ็ญศรี ชั้นบุญ ประธานคณะทำงานสร้าง “พระพุทธมหาจุฬาลงกรณชุตินธรบวรศาสดา” และสร้างฐานชุกชีที่ประดิษฐานพระพุทธปฏิมา ​กล่าวว่า ตามที่ มจร ได้จัดงานวันจำนงค์ ทองประเสริฐ ในวันที่ 2 พ.ค. ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันอายุวัฒนมงคลของ ศ.พิเศษ จำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต คณะศิษยานุศิษย์ได้ปรารภในการสร้างพระพุทธปฏิมา เป็นอนุสรณ์ในมงคลสมัยคล้ายวันเกิดของ ศ.พิเศษ จำนงค์ ผู้เป็นปูชนียบุคคลของ มจร โดยความเห็นชอบของพระพรหมบัณฑิต อุปนายสภามหาวิทยาลัย ประธานมูลนิธิจำนงค์ ทองประเสริฐ พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี และคณะผู้บริหาร มจร เพื่อประดิษฐานไว้ ณ รมณียพุทธอุทยาน มจร ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สำหรับมงคลนาม “พระพุทธมหาจุฬาลงกรณชุตินฺธรบวรศาสดา” ได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ในการตั้งชื่อพระพุทธปฏิมาองค์นี้ ซึ่งมีขนาดหน้าตักความกว้าง 5 เมตร ความสูง 6 เมตร 30 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 4.5 ตัน เป็นพระพุทธปฏิมาปางปฐมเทศนาที่หล่อด้วยทองสำริดทั้งองค์ นอกจากนี้ ยังได้รับอนุมัติงบประมาณรายได้ของ มจร เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านหน้า มจร และพัฒนาพื้นที่ให้เป็น “รมณียพุทธอุทยาน” ด้วย

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ กล่าวสัมโมทนียกถาตอนหนึ่ง ว่า เราทั้งหลายที่มาร่วมกันในการอัญเชิญ “พระพุทธมหาจุฬาลงกรณชุตินธรบวรศาสดา” ครั้งนี้ ต่างเป็นพุทธมามกะ ซึ่งหากกล่าวถึงความหมายง่ายๆ หมายถึง ผู้ที่รับพระพุทธเจ้ามาเป็นของเรา หรือหากกล่าวถึงความหมายของพุทธมามกะในอีกความหมาย คือการที่พระพุทธเจ้ายอมรับเป็นสาวกของพระองค์ ซึ่งต้องประพฤติดีปฏิบัติชอบ ต้องศึกษาหลักตามไตรสิกขา จึงจะถึงความสมบูรณ์ในการเป็นพุทธมามกะ การได้มาร่วมอัญเชิญพระพุทธรูปดังกล่าวประดิษฐานแล้ว ถือว่าเป็นพระประธานของ มจร เราทั้งหลายก็ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของ มจร ทั้งหมด และต้องช่วยกันบริหาร มจร ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยดี เพราะ มจร ถือได้ว่าเป็นฐานสำคัญในการทำให้พระพุทธศาสนาเจริญก้าวหน้า และยังเป็นการประกาศถึงความเจริญมั่นคงของ มจร โดยมีพระพุทธรูปนี้เป็นสิ่งยืนยันด้วย