เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงตี 1 วันที่ 21 มี.ค. โดยมีภาพวงจรปิดบันทึกชัดเจน คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่ จยย. ซ้อนกันเข้ามา คนขี่สวมใส่เสื้อแจ๊กเกตสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีดำ คนซ้อนท้ายสวมหมวกกันน็อกสีขาว ขี่วนเข้ามาภายในปั๊มน้ำมัน มาดูลาดเลา ก่อนตรงเข้าไปหาพนักงานเติมน้ำมันหญิงที่นั่งอยู่ แล้วคนซ้อนท้ายลงจากรถ ตรงเข้าไปกระชากกระเป๋าที่คล้องคอ เกิดการต่อสู้ยื้อแย่งกัน คนร้ายชกไปที่ใบหน้าของพนักงานปั๊มน้ำมัน จากนั้นได้กระเป๋า ภายในมีเงินสดประมาณ 28,000 บาท แล้วขี่หลบหนีไป

ต่อมาเวลา 20.00 น. วันที่ 22 มี.ค. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย รอง ผกก.สส ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัว นายณัชพล ธรรมบุญ อายุ 25 ปี ชาว จ.ปทุมธานี นายสมศักดิ์ เนียมประเสริฐ อายุ 26 ปี ชาวกรุงเทพฯ 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทรัพย์พนักงานปั๊มน้ำมันดังกล่าว โดยจับกุมได้ในพื้นที่สายไหม กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง รถ จยย. ที่ใช้ในการก่อเหตุ ก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งสองจะขี่รถ จยย. ตระเวนหาเหยื่อเพื่อก่อเหตุชิงทรัพย์ จนผ่านบริเวณปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ แล้วเห็นพนักงานปั๊มน้ำมัน เป็นผู้หญิง นั่งสะพายกระเป๋าอยู่ จึงขี่ จยย. เข้าไปจอดหน้าห้องน้ำเพื่อดูลาดเลา จนเห็นว่ามีพนักงานอยู่ไม่กี่คน จึงขี่รถ จยย. ไปจอดที่ผู้เสียหายนั่งอยู่ เพื่อกระชากกระเป๋าจากผู้เสียหาย เกิดการต่อสู้ ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ด้วยการชกต่อยใบหน้าจนล้มลง จากนั้นได้กระเป๋าขึ้นซ้อนท้ายรถ จยย. หลบหนีไป โดยระหว่างการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้จัดการปั๊มน้ำมัน ได้เข้ามาต่อว่าผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้าม

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า เป็นการก่อเหตุที่อุกอาจมาก ภายหลังก่อเหตุ ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจชุดสืบสวน ของ สภ.พระอินทร์ราชา และชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เร่งรัดสืบสวนจากภาพกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานต่างๆ จนทราบตัวผู้ต้องหา ติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักใน จ.ปทุมธานี และย่านสายไหม กรุงเทพหมานคร พร้อมด้วยของกลาง รถ จยย. ที่ใช้ในการก่อเหตุและเงินสดของผู้เสียหาย แต่ผู้ต้องหายังมีการปฏิเสธเรื่องทรัพย์สิน ซึ่งมีการซุกซ่อนไว้ในกางเกงในของผู้ต้องหา และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับกุมในคดีชิงทรัพย์มาแล้ว ส่วนอีกคนเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด ก่อนออกมาชักชวนกันมาก่อเหตุดังกล่าว จึงอยากให้ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน เพิ่มความระมัดระวังไม่ให้พนักงานพกเงินสดติดตัวไว้จำนวนมาก และควรให้พนักงานที่เป็นชาย เข้าทำงานในช่วงเวลากลางคืน เพื่อไม่ให้เป็นเป้าหมายที่คนร้ายหวังที่จะก่อเหตุ

ผู้จัดการปั๊มน้ำมันกล่าวว่า พนักงานปั๊มน้ำมันหญิงที่ถูกทำร้าย ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า จมูกฉีกต้องเย็บ 5 เข็ม หน้าผากเย็บ 2 เข็ม และยังรู้สึกตกใจหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ เป็นเงินส่วนตัวของพนักงาน 20,000 บาท ซึ่งตนเพิ่งจะทราบ เป็นเงินที่เตรียมจะโอนค่าเทอมให้ลูก และเงินสดของปั๊มประมาณ 8,000 บาท อยากจะฝากถึงผู้ต้องหา ทำไมถึงไม่ยอมทำงานสุจริต ทุกคนอยากได้เงินต้องทำงาน คนต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทย เขายังต้องทำงานเพื่อแลกเงิน งานมีให้ทำหลายอย่างที่สุจริต ทั้งนี้ทางปั๊มน้ำมันจะไม่ให้พนักงานเก็บเงินไว้กับตัวเยอะอยู่แล้ว ถ้าเงินจำนวนมากก็ให้เก็บเข้าเซฟทันที เพิ่งจะทราบจากพนักงานว่าเอาเงินสดติดตัวเพื่อเตรียมไปโอนค่าเทอมให้ลูกในตอนเช้าหลังเลิกงาน