กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีเนื้อสัตว์เถื่อนกว่า 10,000 ตู้ อาทิ ชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง เนื้อโค และตีนไก่สวมสิทธิ เพื่อขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด หรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด กระทั่งรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า 2.นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ หรือนายมิกซ์ (บุตรชายบุญธรรมของเฮียเก้า) 3.นายสมเกียรติ กอไพศาล (อดีตเลขานุการนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย (สองสามีภรรยา) โดยจับกุมไปแล้ว 4 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

DSI ออก 9 หมายจับ ‘กก.-นอมินี’ เครือข่ายเฮียเก้า พบจ่ายส่วยเดือนละ 4 แสน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 มี.ค. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ บุตรชายบุญธรรมของเฮียเก้า ผู้ต้องหาในคดีตีนไก่สวมสิทธิ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปทำธุรกิจที่ฮ่องกง กระทั่งศาลอาญาออกหมายจับวันที่ 9 ม.ค. 67 และยังไม่เคยมีการประสานติดต่อเข้าพบดีเอสไอแต่อย่างใด ล่าสุดคณะพนักงานสอบสวนได้รับรายงานว่า นายกรินทร์ จะเดินทางด้วยอากาศยานจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาถึงประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 07.40 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ภายใต้การกำกับของนายวิทวัส สุคันธรส ผอ.ศูนย์สืบสวนสะกดรอยฯ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวตามหมายจับ ก่อนควบคุมขึ้นรถยนต์ของดีเอสไอ นำตัวมายังอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากรายงานการสืบสวนของดีเอสไอ พบว่า การทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างนายกรินทร์ และเฮียเก้า เมื่อปี พ.ศ. 2565 ได้โอนเงินไปยังเฮียเก้า 2.6 ล้านบาท ขณะที่ในปี พ.ศ. 2564-2566 เฮียเก้าโอนเงินให้นายกรินทร์ 10.8 ล้านบาท นอกจากนี้การจับกุมตัวนายกรินทร์ เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา สิทธิตามประมวลกฎหมาย แจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัว จนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จากนั้นบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ณ ห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป