สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ เตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและรักษาสุขภาพ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อแบคทีเรีย “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” ก่อให้เกิดโรคที่เรียกว่า “แบคทีเรียกินเนื้อ” (Flesh-Eating Disease) โดยทั่วประเทศพบผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 517 คน เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในจำนวนนี้อยู่ในกรุงโตเกียว อย่างน้อย 88 คน


แบคทีเรียดังกล่าว แพร่กระจายได้ผ่านการสัมผัสละอองฝอย การติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจ และการสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ป่วยโรคชนิดนี้ โดยอาการที่สามารถสังเกตได้ คือ การมีไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน ปวดและบวมตามแขนและขา และความดันโลหิตต่ำ เมื่ออาการทวีความรุนแรง จะส่งผลให้ระบบการทำงานของอวัยวะหลัก อาทิ หัวใจ ตับ และปอด ล้มเหลว ส่วนอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ สูงถึง 30%


อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเน้นย้ำ ว่าโรคแบคทีเรียกินเนื้อไม่ใช่โรคใหม่ และเชื่อมั่นว่า ไม่น่าก่อให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่เหมือนโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่ใช่โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจโดยตรง แต่เน้นย้ำให้ประชาชนเพิ่มการรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน หมั่นล้างมือ และรักษาบาดแผลอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ หากมีอาการน่าสงสัย ขอให้ไปพบแพทย์ทันที.

เครดิตภาพ : AFP