เมื่อวันที่ 31 มี.ค. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.ชนันท์ธัช แก้วทอง พ.ต.ต.ประจักษ์ กุลนาพันธ์ สว.สส.สน.มีนบุรี พร้อมฝ่ายสืบสวน นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.185/2567 ลงวันที่ 29 มี.ค. 67 เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุวินทวงศ์ 13 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ จับกุม น.ส.เกษรา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี และนายนิพพิชฌน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน

จากการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า, ป้ายบอกราคา, ป้าย QR CODE แสดงหมายเลขบัญชี เพื่อส่งให้ลูกค้าทราบรายการและราคาของบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาเติมสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมกับบัญชีในการรับโอนเงินค่าสินค้าตามที่ลูกค้าสั่ง พบกล่องบรรจุอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ GLOCK 19, ซองกระสุนปืน สำหรับอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ GLOCK 19 จำนวน 1 ซอง, ไฟฉายติดอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 อัน และกล่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. (ไม่มีลูกกระสุน) จำนวน 1 กล่อง รวมของกลางมูลค่ากว่า 3 แสนบาท

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องตามนโยบายรัฐบาลให้กวดขันจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาจะใช้เฟซบุ๊กอวตารปิดบังชื่อที่แท้จริง เป็นช่องทางในการจำหน่าย โดยใช้วิธีการส่งพัสดุให้กับลูกค้าที่อยู่ในต่างจังหวัดหรือไม่สะดวกมารับบุหรี่ไฟฟ้าด้วยตนเอง ส่วนลูกค้าที่เป็นแฟนประจำมารับสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าที่บ้านผู้ต้องหา ก็จะใช้วิธีการจำหน่ายโดยให้ลูกค้าที่สั่งของโอนเงินค่าสินค้ามาก่อน จากนั้นผู้ต้องหาจะนำบุหรี่ไฟฟ้า ไปวางไว้ที่กล่องรับพัสดุหน้าบ้านผู้ต้องหา ป้องกันการล่อซื้อของตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนโดยวิธีการล่อซื้อและขอหมายค้น เข้าไปจับกุมได้พร้อมของกลางภายในบ้านหลังดังกล่าว

สอบสวน น.ส.เกษรา ยอมรับว่า อยู่ในช่วงเก็บเงินเพื่อจะเข้าพิธีวิวาห์กลางเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ ส่วนปืนของกลางดังกล่าวเป็นของตนเอง ซึ่งลุงเป็นผู้ซื้อให้ ต่อมาแม่เดินทางไปต่างจังหวัด จึงให้แม่นำอาวุธปืนติดตัวไปเพื่อป้องกันตัวระหว่างเดินทาง

ขณะที่ พล.ต.ต.เกียรติกุล กล่าวว่า การที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนช่วยกันวางแผนเก็บเงินเพื่อนำไปสร้างครอบครัว เพื่อจะจัดงานแต่งงาน เป็นเรื่องดีที่น่ายกย่อง แต่การเก็บเงินเก็บทองที่ได้มาโดยไม่ชอบ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง “อย่าได้หาทำ” เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.