เมื่อวันที่ 2 เม.ย.  น.พ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธานกสทช.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวุฒิสภา มีมติให้ส่งรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. พร้อมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับรายงานฯของคณะกรรมาธิการฯและ ส.ว. ไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน  และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป นั้น

 ตนขอชี้แจงว่า ไม่ได้หนักใจ เขาก็ทำหน้าที่ของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา ตนเองอยู่ในตำแหน่งมาประมาณ 2 ปี และกระบวนการแต่งตั้งเลขาธิการกสทช.ก็ได้ดำเนินการครบถ้วน สมบูรณ์ แล้ว การที่ สว.บางคนไม่เห็นด้วย ต้องถามว่า มีอำนาจพิจารณาตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และกสทช.ก็เป็นองค์กรอิสระ เป็นการก้าวก่ายการทำงานของอิสระหรือไม่ และเรื่องกระบวนการสรรหา ได้มีผู้สมัครบางรายได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง แล้วควรต้องเคารพศาล ให้ทางศาล มีคำวินิจฉัยออกมาก่อน  และขอตั้งข้อสังเกตว่าการมีความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เพราะมีกระบวนการ ที่ต้องการเอาตน ลงจากตำแหน่งหรือไม่

“การส่งรายงานนั้นเป็นเรื่องรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง กับกระบวนการ แต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 แต่กลับกลายเป็นความผิดของประธาน เพียงเพราะสิ่งที่ตนตีความ ไม่ถูกใจคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งยืนยันว่าได้ทำหนังสือชี้แจงในเรื่องนี้ไปแล้ว และคงไม่เข้าไปชี้แจงด้วยตนเอง ต้องเคารพศาลให้มีคำวินิจฉัยก่อน”  น.พ.สรณ กล่าว

พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ

ด้าน พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กสทช. กล่าวว่า  ตอนแรกวุฒิสภาก็บอกว่าความล่าช้าในการสรรหาเลขาธิการกสทช.เป็นความผิดของบอร์ดกสทช. ตนเองก็ขอให้เร่งรัดการสรรหาใหม่ ซึ่งประธานก็อ้างว่ายังมีเรื่องอยู่ที่ศาล ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกัน สามารถทำได้ การไม่เปลี่ยนตัวรักษาการ และนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เป็นรักษาการเลขาธิการกสทช.อยู่แบบนี้ ทำให้ไม่สามารถประเมินการทำงานได้ ซึ่งเป็นหน้าที่บอร์ดในการประเมิน และรักษาการก็สามารถอยู่ได้ตลอดไป หากรอศาลตัดสิน เพราะระยะเวลาในการตัดสินอาจใช้เวลานานหลายปีก็เป็นได้