สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ว่าองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) และสภาพยาบาลระหว่างประเทศ ( ไอซีเอ็น ) เผยแพร่รายงานร่วมกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกี่ยวกับความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใน 54 ประเทศของทวีปแอฟริกา ปรากฏว่า มีเพียง 15 ประเทศเท่านั้น ซึ่งมีประชากรอย่างน้อย 10% ได้รับวัคซีนครบแล้ว
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า "ยังเป็นหนทางอีกยาวไกล" ที่แอฟริกาจะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับภูมิภาคอื่นบนโลก ในการบรรลุเป้าหมาย มีประชากรอย่างน้อย 40% ได้รับวัคซีนครบภายในสิ้นปีนี้ แม้ทวีปแอฟริกาเริ่มได้รับวัคซีนมากขึ้น ทั้งด้วยการบริจาคโดยตรงจากนานาประเทศ และการส่งมอบผ่านโครงการโคแวกซ์ โดยเมื่อดือน ก.ย.ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว ทวีปแอฟริกาได้รับวัคซีน 23 ล้านโด๊ส เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากเดือน มิ.ย. แต่การจัดสรรและกระจายวัคซีนยังมีปัญหา
ประชาชนในกรุงไนโรบี เมืองหลวงของเคนยา ต่อแถวรอฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
ขณะเดียวกัน ผลการศึกษาข้อมูลจาก 9 ประเทศในทวีปแอฟริกา ปรากฏว่า 1 ใน 3 ของบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย และมีเพียง 10% เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว หมายความว่า ทวีปแอฟริกาไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างน้อย 10% ภายในวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ในขณะที่เกือบ 90% ของกลุ่มประเทศร่ำรวยสามารถบรรลุเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ในรอบ 7 วันล่าสุดจนถึงวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในทวีปแอฟริกา ลดลง 35% มาอยู่ที่ประมาณ 74,000 คน ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตรายใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่เกือบ 1,800 ราย ซึ่งดับเบิลยูเอชโอและไอซีเอ็นชื่นชมชาวแอฟริกัน ที่พยายามร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการควบคุมทางสังคมอย่างเคร่งครัด แม้ยังขาดแคลนวัคซีน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES