เมื่อเวลา12.10 น. วันที่ 4 เม.ย.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152  ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม  ได้ลุกขึ้นชี้แจงถึงการตัดลดงบประมาณเรือฟริเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายพาดพิงถึง ว่า ตนยอมรับว่า ในการตั้งงบอาวุธจัดซื้อเรือฟริเกตของรัฐบาลนั้น รัฐบาลหนักใจที่สุด เพราะกลัวพรรคก้าวไกล ที่ด่ามาทุกปี จึงตัดงบประมาณดังกล่าวและในปีต่อไปจะมียุทธศาสตร์การจัดซื้อ ไม่ให้ซ้ำซ้อน และไม่ให้เงินค้างท่อ แต่กลายเป็นว่า รัฐบาลแทงม้าผิดตัว หลงมุม เพราะพรรคก้าวไกล กลับสนับสนุน 

“ดังนั้นหากพรรคก้าวไกลสับขาหลอกได้ ผมเองก็สับขาหลอกเป็นเช่นกัน ในปีหน้าหากรัฐบาลให้งบประมาณแก่กองทัพเรือจัดซื้อเรือฟริเกต ก็ขอฝ่ายค้านอย่าบ่น หรือตำหนิรัฐบาลอีก ขอให้ฝ่ายค้าน จำคำของผมไว้ให้ดี ที่เชียร์ให้ซื้อเรือฟริเกต หรือหากรัฐบาลอนุมัติให้ 2 ลำ ก็ขอฝ่ายค้านอย่าบ่นอีก และหากซื้ออาวุธอย่างอื่นอีก ก็ขออย่ามาด่ากัน” รมว.กลาโหม กล่าว

นายสุทิน กล่าวยืนยันว่า การสั่งการของตนที่มีการขอนั้น ตนไม่ได้ขอแบบหน่อมแน้ม แต่เพราะคนก้าวร้าว จะไม่เคยเห็นคุณค่าของความนุ่มนวล เพราะคำว่าขอของตนเองนั้น คือการสั่งการ และชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องไปคำรามใส่กองทัพ  ส่วนปัญหาภายในกองทัพว่า มีปัญหาในโครงสร้าง ตนไม่ปฏิเสธว่านโยบายกองทัพของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นการคิดใหม่ แต่เป็นการทำต่อจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเมื่อตนรับตำแหน่งรมว.กลาโหม แล้ว ก็ได้พบว่า กองทัพก็มีการปฏิรูปกองทัพตัวเองเช่นเดียวกัน ตนจึงใช้ไม้อ่อน ให้คนในได้ปฏิรูปกันเอง เพราะการปฏิรูป กับการปฏิวัติต่างกัน เพราะถ้าปฏิวัติ คือ ฉับพลันทันด่วน ไม่ต้องมีส่วนร่วม แต่ปฏิรูป คือ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ 

“ถ้าผมเป็นเด็ก มีอายุเท่านายวิโรจน์ ผมก็จะใช้วิธีการปฏิวัติ แต่เมื่อผ่านมาหลายเรื่อง ผมจึงคิดว่า การร่วมคิดร่วมทำดีที่สุด และผมได้ตั้งคณะทำงาน 10 ชุดมาแก้ปัญหาในกองทัพ เช่น การเลือกทหารกองประจำการ การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร การดำเนินการด้านสวัสดิการกำลังพล การแก้ไขร่างกฎหมายความมั่นคง การศึกษาแนวทางที่เหมาะสมกับการจัดหาเรือดำน้ำ เป็นต้น” นายสุทิน กล่าว 

นายสุทิน ยังกล่าวถึงการอภิปรายของนายวิโรจน์ ว่า ไปโฆษณาว่า จะอภิปรายแบบคุณภาพคับแก้ว แต่พอเอาเข้าจริง กลับเป็นเรื่องเก่า เรื่องเดิม ที่เคยพูด และตนเคยตอบไปแล้ว และ 90% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่นายวิโรจน์ กลับอภิปรายให้ชาวบ้านเข้าใจว่า ปัญหาเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้

รมว.กลาโหม ยังชี้แจงถึงการกู้เรือหลวงสุโขทัย ที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายระบุเป็นการปาหี่ว่า ยืนยันว่า ตนก็ยังติดตามว่า จะเป็นการปาหี่หรือไม่ แต่ขณะนี้ การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ การจะไปลงโทษเอาผิด ไม่ใช่วิธีการบริหารที่ถูกต้อง เพราะขั้นตอน ยังไม่แล้วเสร็จ และต้องรอรายงานผลการสอบสวน เพื่อนำไปตรวจสอบ 

“ถ้าเป็นลักษณะปาหี่จริง ก็ยืนยันว่า ผมสามารถตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบชุดใหม่ได้ โดยเป็นการตั้งคณะกรรมการจากภายนอก แต่ในวันที่ 9เม.ย.นี้ กองทัพเรือจะสรุปผลสอบสวนว่าใครผิด หรือใครถูก และใครต้องได้รับการลงโทษ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีแพะเด็ดขาด” นายสุทิน กล่าว.