เป็นที่รู้กันว่าในปัจจุบัน “คนไทย” ตกเป็นเหยื่อ “ภัยออนไลน์”กันจำนวนมาก สร้างความเสียหาย เป็นมูลค่า มหาศาล!?!

แม้ว่าภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามเร่งแแก้ปัญหาและสร้างตวามตระหนักรู้ให้กับประชาชน แต่อาชญากรไซเบอร์ ก็ยังหาวิธีการ หรือมุกใหม่ๆ หลอกหลงอย่างต่อเนื่อง!!

โดยประเทศไทยมีคดีหลอกลวงและกลโกงทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าในปีที่ผ่านมา ผู้คนจะตระหนักถึงกลโกงทางออนไลน์กันมากขึ้น แต่กลับพบว่า 7 ใน 10 ของผู้ใช้ออนไลน์ในประเทศไทย ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทางออนไลน์

ทั้งๆ ที่มีความมั่นใจว่าตนเองนั้นสามารถมองกลโกงออกและหลีกเลี่ยงได้!?!

โดยอุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไปสู่การโดนหลอกให้ทำธุรกรรมก็คือ “โทรศัพท์มือถือ”  วันนี้ คอลัมน์ “ ชีวิตติด TECH” มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก “กูเกิล” ยักษ์ไอทีระดับโลก ผู้พัฒนาและให้บริการระบบปฎิษัติการแอนดรอยด์  (Android)ที่ได้ร่วมกับ ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดตัวฟีเจอร์ป้องกันกลโกงใหม่ใน “Google Play Protect” ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นให้แก่ผู้ใช้อุปกรณ์ Android ในประเทศไทย

“Mohet Saxena” ผู้อำนวยการฝ่ายความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยสำหรับ Play Store, Android และ Chrome Web Store ของ Google  บอกว่า การหลอกหลวงผ่านทางมือถือในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กูเกิลจึงเดินหน้า คิดหาวิธีที่จะช่วยให้คนไทยมีความปลอดภัยบนโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพของ Google Play Protect จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นให้แก่ผู้ใช้อุปกรณ์ Android เพื่อต่อต้านมิจฉาชีพและกลโกงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

สำหรับการทำงาน ของฟีเจอร์ป้องกันกลโกงใหม่บนอุปกรณ์ Android นั้น หากผู้ใช้พยายามติดตั้งแอป ซึ่งดาวน์โหลดมาจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก บนอินเทอร์เน็ต และ อาจมีความเสี่ยง ที่มีเจตนาในการใช้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูล ละเอียดอ่อนนั้น  Google Play Protect  จะบล็อกการติดตั้งโดยอัตโนมัติ

Mohet Saxena

ไม่ว่าจะเป็นเว็บเบราว์เซอร์ แอปรับส่งข้อความ หรือโปรแกรมจัดการไฟล์ ที่อาจใช้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลละเอียดอ่อน ซึ่งมักจะถูกนำไปใช้ในกลโกงทางการเงิน ก็จะทำการบล็อกการติดตั้งโดยอัตโนมัติ พร้อมแสดงคำอธิบายให้ผู้ใช้ทราบ

โดย ฟีเจอร์ป้องกันกลโกงใหม่นี้จะตรวจสอบสิทธิ์ของแอปแบบเรียลไทม์!?!

 โดยเฉพาะสิทธิ์ 4 รายการนี้  ได้แก่ การอ่าน SMS (READ_SMS) การรับ SMS (RECEIVE_SMS) การช่วยเหลือพิเศษ (Accessibility) และการฟังการแจ้งเตือน (BIND_Notifications)

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ด้านภัยคุกคามโดยละเอียดของ Google พบว่า มิจฉาชีพมักจะใช้สิทธิ์เหล่านี้ เพื่อดักจับรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียวที่ส่งมาทาง SMS หรือการแจ้งเตือน

รวมทั้งแอบส่องเนื้อหาบนหน้าจอของผู้ใช้ และจากการวิเคราะห์กลุ่มมัลแวร์สำหรับกลโกงหลักๆ ที่ใช้ประโยชน์จากสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลละเอียดอ่อนเหล่านี้ พบว่ากว่า 95% ของการติดตั้ง มาจากแหล่งที่มา ที่ไม่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต!!

ซึ่งหากเราติดตั้งแอปทั่วไปใน กูเกิล เพลย์ สโตร์ ฟีเจอร์นี้ก็จะไม่มีการบล็อกอะไร!?!

ภาพ pixabay.com

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม เพียงแค่เป็นมือถือ ระบบแอนดรอยด์ในเวอร์ชั่น 6  ขึ้นไป ก็จะมีฟีเจอร์นี้อยู่ในเครื่องเลย

ทั้งนี้ ทาง Google จะทยอยเปิดให้บริการแก่ผู้ใช้ในประเทศไทยใน เร็วๆนี้ โดยไทยเป็นประเทศที่ 2 ของโลก ต่อจากสิงคโปร์ ที่ทาง Google ได้นำร่องเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ไปแล้ว

ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ขึ้นไปอีกขั้นนอกเหนือจากการรักษาความปลอดภัยในตัวแบบหลายชั้นที่มีอยู่แล้วทั้งบน Android และ Google Play

ซึ่งรวมถึงการป้องกันสแปมใน Google Messages, Google Safe Browsing ใน Chrome และ Google Play Protect ที่ตอนนี้มีการสแกนแอปแบบเรียลไทม์เพิ่มเข้ามาด้วย!!

 “ เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง ดีอี  ในการรับมือกับปัญหานี้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ที่คนไทยทั้งประเทศกำลังประสบอยู่  และทาง  Google จะคอยติดตามผลการทำงานของฟีเจอร์นี้อย่างใกล้ชิด ร่วมกับกระทรวงดีอี เพื่อประเมินผลกระทบและทำการปรับปรุงที่จำเป็นต่อไป”  “Mohet Saxena” ระบุ

นอกจากการเปิดฟีเจอร์ใหม่แล้ว ทาง กูเกิล  ยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐเพื่อเสริมสร้างความรู้และส่งเสริมความตระหนักด้านความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เพื่อช่วยให้คนไทยทุกคนมีข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ

แจ็คกี้ หวาง

ซึ่งในปีนี้ Google ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับกระทรวง ดีอี ในการจัดทำคอนเทนต์เพื่อให้ความรู้ แบ่งปันเคล็ดลับดีๆ และแนะนำเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยในการรับมือกับการหลอกลวงทางออนไลน์ ประเภทต่างๆ ที่พบบ่อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Pause Check Protect ที่ได้ จะชวนคนไทยตั้งสติ ตรวจสอบ ป้องกัน เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ด้วย

ขณะเดียวกัน ก็ได้จัดงาน Safer Songkran ที่สามย่านมิตรทาวน์ ด้วยกิจกรรมที่มุ่งเสริมสร้างทักษะดิจิทัล และนำเสนอเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้ Gen Z และทุกคนปลอดภัยบนโลกออนไลน์ โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจ เข้าร่วมงานฟรี ถึงวันที่ 6 เม.ย. นี้ 

“แจ็คกี้ หวาง” ผู้อำนวยการ ประจำ Google ประเทศไทย บอกว่า  Google มุ่งมั่นกับการลดช่องว่างดิจิทัล และการทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน ภายใต้พันธกิจ Leave No Thai Behind มาโดยตลอด ซึ่งในปัจจุบันที่ผู้คนพึ่งพาอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเพื่อความบันเทิง การตระหนักถึงภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น การหลอกลวงทางออนไลน์ รวมถึง การรับมือกับ ผู้ไม่ประสงค์ดี การเตรียมพร้อม รู้เท่าทัน และมีข้อมูลที่จำเป็นในการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างฉลาด และรอบคอบจึงเป็นเรื่อง สำคัญมากกว่าที่เคย

“กูเกิลหวังว่า Safer Songkran จะช่วยสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัย บนโลกออนไลน์และ สนับสนุนให้คนไทยในทุก ช่วงวัยได้ใช้ช่วงเวลาสงกรานต์ในการส่งมอบความห่วงใยและส่งเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัล ให้กับตัวเองและครอบครัว”

ทั้งหมดถือเป็นความร่วมมือของภาครัฐกับภาคเอกชนระดับโลก ที่ต้องการร่วมปกป้องคนไทยจากกลโกงออนไลน์ ให้ได้!?!   

Cyber Daily