สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่า นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ให้การต้อนรับนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอาทิตย์ โดย หลี่ กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่ง “มีความหวังอย่างจริงใจ” ว่า “สหรัฐและจีนจะเป็นพันธมิตร ไม่ใช่ศัตรู”
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวด้วยว่า ประชาชนในประเทศติดตามภารกิจการเยือนของเยลเลน ตั้งแต่เธอเดินทางถึงเมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ในภาคใต้ของจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และทุกฝ่ายมีความคาดหวัง ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน “จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น” ด้านเยลเลน กล่าวว่า คณะทำงานจากหน่วยงานของสหรัฐและจีน เตรียมหารือร่วมกันตามกรอบความร่วมมือปัจจุบัน เพื่อปราบปรามและขจัดการฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม สัญญาณความตึงเครียดยังคงอยู่ เมื่อเยลเลนกล่าวก่อนหน้านั้น ว่าอุตสาหกรรมกรรมของจีน “มีผลผลิตล้นเกิน” เนื่องจากมาตรการอุดหนุนและทุ่มตลาดของภาครัฐ ส่งผลต่อศักยภาพของผู้ผลิตในสหรัฐ

ทั้งนี้ เยลเลนพุ่งเป้าไปที่แผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และแบตเตอรี่ พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า การที่มีผลผลิตมากเกินไป นอกเหนือจากจะเกินความต้องการของตลาดแล้ว ยังส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาด ในการรองรับสินค้าที่มีมากเกินไป ซึ่งจะกระทบต่อเนื่องไปยังกลไกห่วงโซ่อุปทาน และความยืดหยุ่นของตลาด
เยลเลนยืนยันว่า ความวิตกกังวลดังกล่าว “ไม่ใช่การแพร่ขยายแนวคิดต่อต้านจีน” แต่เป็นความพยายามของสหรัฐ ในการบรรเทาความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจโลก ที่จะเป็นผลจากการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลปักกิ่ง
อนึ่ง คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ประกาศเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ตรวจสอบมาตรการอุดหนุนตลาดอีวีของจีน ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งประณามฝ่ายตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐ “กีดกันทางการค้า” และทำให้เศรษฐกิจระหว่างประเทศ “เป็นเรื่องการเมือง”.
เครดิตภาพ : AFP