สวัสดีวันหยุด! อ้วนซ่า แอบซิ่ง เชื่อว่าตอนนี้ท่านผู้อ่านหลายๆท่านเริ่มที่จะนับถอยหลังสู่วันหยุดสงกรานต์ เพื่อจะได้เดินทางกลับถิ่นฐานภูมิลำเนาไปไหว้พ่อเฒ่าแม่แก่กันตามแบบแผนธรรมเนียมที่ดีของชาวไทยเรา ส่วนในโลกของรถยนต์นั้นมีความร้อนแรงของรถยนต์ใหม่ในปีนี้นับว่า แรงไม่แพ้แสงแดด และไม่แต่เฉพาะในบ้านเรา เพราะในเมืองจีนเอง แม้จะมีข่าวคราวออกมาเป็นระยะว่า รถไฟฟ้าจีนท่าทางจะแย่ แต่เมื่อแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าดังอย่าง “เสี่ยวมี่”(Xiaomi) ได้เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นแรกของพวกเขาที่มีชื่อว่า SU7 ออกมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลับสร้างปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง เพราะเพียง 24 ชั่วโมง สามารถกวาดยอดจองไปได้ถึง 88,898 คัน เลยทีเดียว!

โดยยอดจองทั้งหมดนี้มาจาก ยอดที่ผู้สนใจต้องวางเงินจอง 5 พันหยวน หรือราว 25,000 บาท เลยทีเดียว โดยการจองนี้ทำขึ้นในโชว์รูมทั้ง 59 แห่งจาก 29 เมืองของประเทศจีน และเมื่อเวลาผ่านไป 48 ชั่วโมงยอดจองก็ทะลุหลัก 100,000 คันไปได้อย่างฉลุย โดยรถล้อตแรกที่จะทำการส่งมอบนั้นคาดว่าจะเป็นเดือนเมษายนนี้เลย โดยจะเป็นรถที่ผลิตจากโรงงานของ BAIC อันเป็นรัฐวิสาหกิจด้านประกอบรถยนต์แห่งเมืองปักกิ่ง ที่ในช่วงแรกจะมีกำลังผลิต 150,000 คันต่อปี นั่นก็หมายความว่ากำลังการผลิตของปีนี้ทั้งปี มีคนจองเรียบร้อยหมดแล้ว!แต่ว่ากันว่า ในอนาคตตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตได้มากถึง 300,000 คันต่อปี

สาเหตุของยอดจองที่ถล่มทลายนี้มาจากราคาที่น่าทึ่งระดับ“เสี่ยสั่งลุย”เพราะรถรุ่น SU7 ที่เป็นสปอร์ตซีดานทรงเพรียวเร้าใจนี้ มีราคาเริ่มต้นเพียง 215,900 หยวน หรือราว 1,092,000 บาท เท่านั้น ต่ำกว่ารถที่เทียบเคียงกันอย่าง เทสล่า โมเดล3 (Tesla Model 3) ถึงกว่า 1.5 แสนบาท! หรือถ้าจะเปรียบเทียบกับรถในบ้านเราก็คือ ราคาพอๆกับบีวายดี ซีล (BYD Seal) และ ดีพอล แอล07 (Deepal L07) นั่นเอง

ว่ากันว่าด้วยราคาที่เปิดตัวมานี้ รถของเสี่ยวมี่“ขาดทุนทุกคัน”แต่เพราะพวกเขาต้องการจะปักหมุดลงไปในสมรภูมินี้ให้ได้ดังนั้น เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน เท่านั้น ความแจ่มแจ๋วของรถไฟฟ้าจากแบรนด์ เสี่ยวมี่ นี้นอกจากหน้าตาที่ สวยเอาเรื่อง ก็คือความไฮเทคที่มาจากการใช้ชิพ NVIDIA Drive Orin ที่จะช่วยประมวลผลระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่รับข้อมูลมาจากเซนเซอร์รอบคัน สามารถตรวจจับวัตถุได้ไกลถึง500 เมตร

ด้านสมรรถนะนั้นแบ่งเป็น 2 รุ่นคือ มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง และมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยรุ่นมอเตอร์เดี่ยวจะมีกำลัง 299 แรงม้า มีแรงบิด400 นิวตัน-เมตร ใช้แบตเตอรี่ แบบ LFP จาก BYD มีความจุ 73.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 668 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC อ้ตราเร่ง0-100 ใน 5.28 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความสามารถในการหยุดรถ 100-0 ทำได้ใน35.5 เมตรเท่านั้น

ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ นั้นร้อนแรงดั่งไฟเยอร์ จะมีกำลัง 673 แรงม้า มีแรงบิด838 นิวตัน-เมตร ใช้แบตเตอรี่ แบบ NMC จาก CATL มีความจุ101 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 800 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC อ้ตราเร่ง 0-100 ใน 2.78 วินาที และ 0-200 ในเวลาเพียง 10.67 วินาที!!!!ความเร็วสูงสุด 265 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความสามารถในการหยุดรถ 100-0 ทำได้ใน 33.3 เมตรเท่านั้น แน่นอนสเปคขนาดนี้ ราคาน่าจะสูงกว่ารุ่นเริ่มต้นพอตัว…ถ้าใครอยากได้รถไฟฟ้า แต่ไม่รีบมาก ปีหน้าคนไทยได้เห็นแน่นอน!.