สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมเวเนซุเอลา ระบุว่า แมงกะพรุนกระสุนปืนใหญ่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน ลอยเข้ามาติดอวนของชาวประมงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และสัตว์นักล่าแมงกะพรุน เช่น ปลาฉลาม และเต่าทะเล มีจำนวนน้อยลง

“ในขณะเดียวกัน ปลาซาร์ดีน และปลาสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ใช้เป็นเหยื่อตกปลา หายไปจากน่านน้ำ ส่งผลให้การประมงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายปี” นายกุสตาโว การ์รัสเควล จากองค์กรอิสระ (เอ็นจีโอ) “อาซุล แอมเบียนทาลิสตัส” กล่าว

อนึ่ง ประชากรแมงกะพรุนเพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งนักวิจัยหลายคน กล่าวเตือนถึงจุดเปลี่ยนที่มหาสมุทรอาจมีจำนวนแมงกะพรุนมากกว่าปลา เนื่องจากแมงกะพรุนสามารถเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย และพวกมันต้องการออกซิเจนเพียงเล็กน้อย ขณะที่ประชากรปลา มีจำนวนลดลง เพราะการประมงเกินขนาด

ด้านนายจอกซ์เมอร์ สกอตต์-ฟริอัส นักวิจัยจากสถาบันสัตววิทยาและนิเวศวิทยาเขตร้อน ของมหาวิทยาลัยกลางแห่งเวเนซุเอลา กล่าวว่า ฝูงแมงกะพรุนเหล่านี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับเสริมว่า สาเหตุที่พวกมันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด

ทั้งนี้ แมงกะพรุนจำนวนมาก และการปรากฏตัวของปะการังยูโนเมีย สโตโลนิเฟรา (Unomia stolonifera) ซึ่งชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน และทำลายปะการังพื้นเมือง กลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับชาวประมงในท้องถิ่น

ขณะที่ นายเฟอร์นันโด มาโยรา หัวหน้าสภาชาวประมงในเมืองโชโรนี กล่าวว่า ทางการเวเนซุเอลา ควรหาแรงบันดาลใจจากประเทศต่าง ๆ เช่น เม็กซิโก ซึ่งใช้ประโยชน์จากแมงกะพรุนในเชิงพาณิชย์ โดยส่งออกไปยังประเทศในเอเชีย ที่ใช้พวกมันในการทำอาหาร หรืออุตสาหกรรมยา.

เครดิตภาพ : AFP