เมื่อวันที่16 เม.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงมหาดไทย โดยในวันนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รายงานว่าได้เชิญเจ้าหนี้-ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเพิ่มเติม 14 ราย ซึ่งสามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้สำเร็จทั้งหมด โดยจากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยมีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 ราย กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังทุกจังหวัด และทุกอำเภอ ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้เมื่อเวลา 15.00 น. กระทรวงมหาดไทย ได้รับรายงานจากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครองว่า วันนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ โดยมีตัวเลขข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศ มีจำนวนลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 46,940 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 27,448 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,062.071 ล้านบาท และมีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 385 คดี โดยมีจังหวัดที่สามารถเชิญเจ้าหนี้-ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ได้มากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. จังหวัดสงขลา 4,380 ราย 2. จังหวัดนครศรีธรรมราช 4,340 ราย 3. จังหวัดศรีสะเกษ 3,283 ราย 4. จังหวัดนครสวรรค์ 2,669 ราย และ 5. จังหวัดชัยภูมิ 2,350 ราย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามผลภายหลังจากการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จครบทั้งกระบวนการต่อไป

“ขอให้ทุกจังหวัดที่เหลือบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เร่งรัดให้เจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ครบทุกกรณี เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนไว้ได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้รวดเร็วและเป็นธรรม และต้องคำนึงถึงความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยของทุกกรณี สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศ ภาพรวมในวันนี้จังหวัดสงขลายังคงเป็นจังหวัดที่มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมากที่สุด 4,380 ราย และมี 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ศรีสะเกษ นราธิวาส และจังหวัดระนอง ดำเนินการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้วครบ 100% แล้วจากยอดที่ลงทะเบียน ซึ่งทำให้เห็นว่า กระทรวงมหาดไทยยังคงนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนยังไม่หมดสิ้นไป ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบหากไม่สามารถใช้การเจรจาไกล่เกลี่ยได้ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทันที เพราะหนี้นอกระบบถือว่าผิดกฎหมาย คือ มีการปล่อยกู้โดยไม่มีใบอนุญาต อีกทั้งยังเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

“ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานรวมถึงภาคีเครือข่ายต่างมีความตั้งใจที่จะอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยในเทศกาลแห่งความสุข ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่งในการอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ลูกหนี้ และให้เจ้าหนี้ได้รับเงินที่ให้ลูกหนี้กู้ยืมกลับไปใช้ ดังนั้น ฝ่ายปกครองจึงมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือให้สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มต่อยอด ในการสร้างอาชีพ รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรหนี้นอกระบบ ซึ่งภาครัฐมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มลูกหนี้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาชี้เเนะให้พี่น้องกลุ่มนี้สามารถดูแลตัวเองได้เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้นอกระบบได้ผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือ โทรสายด่วน 1567 โดยจะมีเจ้าหน้าที่บริการตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ขอให้พี่น้องประชาชนได้มั่นใจว่ากระทรวงมหาดไทยจะอยู่ดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย