สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ว่าฮ่องกงประกาศใช้กฎหมายแบนผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ทั้งในร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ และกำหนดเส้นตาย 6 เดือน ให้ทุกร้านเลิกใช้ช้อน-ส้อมพลาสติก และวัสดุอื่น ๆ ก่อนจะเสี่ยงต่อการถูกปรับ
ร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติ เมื่อเดือน ต.ค. 2566 กำหนดให้ยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโพลิสไตรีนและพลาสติก ซึ่งยากต่อการรีไซเคิล ทั้งกับลูกค้าที่รับประทานในร้านและซื้อกลับบ้าน ผู้ที่กระทำผิดจะถูกปรับเป็นเงินสูงสุด 100,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 472,432 บาท)
พลาสติกเป็นแหล่งขยะมูลฝอยที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฮ่องกง เมื่อปี 2564 มีขยะมูลฝอยเฉลี่ย 2,331 ตันต่อวัน หรือเทียบเท่าวาฬหลังค่อมที่โตเต็มวัยเกือบ 70 ตัว
อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของฮ่องกง กล่าวในบล็อกโพสต์ เมื่อวันอาทิตย์ว่า ภายในระยะเวลาการผ่อผันนาน 6 เดือน กรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจะยังไม่ลงโทษตามกฎหมาย กับธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตาม
แม้กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว แต่บรรยากาศในย่านหว่านไจ๋ ซึ่งเป็นพื้นที่การค้าของฮ่องกง ยังคงดำเนินไปตามปกติ เมื่อช่วงเที่ยงของวันจันทร์ ร้านค้าต่าง ๆ ในท้องถิ่น ยังคงขายอาหารซึ่งบรรจุอยู่ในภาชนะที่ทำจากโพลิสไตรีน
พนักงานบริษัทรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีว่า เขาสนับสนุนนโยบายใหม่นี้ อย่างไรก็ดี เขาก็ขอเลือกที่จะไม่เอากล่องอาหารกลางวันมาเอง “การล้างกล่องอาหารในที่ทำงานค่อนข้างลำบาก” เขากล่าว
ผู้เข้าร่วมงานจัดแสดงเครื่องใช้ไฟฟ้ารายหนึ่งระบุว่า เขาไม่รังเกียจที่จะต้องจ่ายเงิน ให้กับภาชนะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคุณภาพดี “ภาชนะกระดาษบนโต๊ะอาหารที่บางเกินไป นั่นแหละคือปัญหา” เขากล่าว
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมกล่าวว่า สำหรับร้านค้าต่าง ๆ ความพยายามในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้ ไม้ไผ่ หรือกระดาษ อาจเพิ่มค่าใช้จ่ายถึง ร้อยละ 30
เฮลีย์ ชาน ผู้บริหารร้านอาหารที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ระยะเวลา 6 เดือน อาจไม่เพียงพอ “ร้านเราสั่งถ้วยที่พิมพ์ลายเป็นการเฉพาะ (หลายหมื่นใบ) มันยากที่จะใช้ให้หมดในครึ่งปี” เธอกล่าว
นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังส่งผลกระทบต่อโรงแรมต่าง ๆ ซึ่งถูกสั่งห้าม ไม่ให้จัดหาแปรงสีฟัน หวี และน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งให้กับลูกค้า
ผู้อำนวยการซีทีเอส เฮชเค เมโทรปาร์ค โฮเทล เมเนจเม้นท์ กล่าวว่า ร้านอาหาร 5 แห่งในเครือ ได้เปลี่ยนมาใช้ช้อนกระดาษแล้วตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ ในส่วนของเครื่องใช้ในห้องน้ำ ภายในห้องพักกว่า 2,000 ห้อง ในโรงแรมทั้ง 7 แห่ง ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 10 ถึง 20
“แต่เราเชื่อว่ามันจะคุ้มค่าต่อสิ่งแวดล้อมและคนรุ่นหลัง” เขากล่าว.
เครดิตภาพ : AFP
