เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา นางสาว น.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมนักข่าวฯ ชุดใหม่ เข้าเยี่ยมคารวะ นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริหารบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารสื่อเครือมติชน รับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นสถานการณ์สื่อมวลชนในยุคปัจจุบันและข้อเสนอแนะต่อสมาคมนักข่าวฯ ทั้งนี้นางสาว น.รินี กล่าวว่า สมาคมนักข่าวฯ เข้าสู่ปีที่ 69 ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 2,300 คน มีทั้งนักข่าวที่ยังทำงานอยู่และนักข่าวอาวุโสที่เกษียณแล้ว ในช่วงวาระการทำงาน 2 ปี มีพันธกิจหลัก คือ ดูแลปัญหาสิทธิเสรีภาพของสื่อ สวัสดิการ การพัฒนาด้านต่างๆ  และต้องหาแนวร่วมเพื่อนำไปปรับปรุงอาคารของสมาคม ถนนสามเสน ปัจจุบันกำลังก่อสร้างรถไฟใต้ดิน ทำให้ได้รับผลกระทบต้องย้ายที่ทำการออกไปชั่วคราว แต่จะกลับไปในช่วง 1-2 ปี

“สถานการณ์สื่อค่อนข้างวิกฤติ ทุกสำนักสื่อล้วนประสบปัญหา แต่เราพยายามคิดหาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เราให้สวัสดิการการรักษาพยาบาล แต่เดิมจากที่สมาชิกสามารถเบิกค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ครั้งละ 500 บาท ปีละ 6 ครั้ง รอบนี้เราเสริมให้เบิกค่าทำฟันเพิ่มเติมได้จากที่หักประกันสังคมแล้ว ในส่วนนี้สามารถนำใบเสร็จมาเบิกกับสมาคมได้ 500 บาทต่อครั้ง ให้รวมอยู่ในการเบิกโอพีดีด้วย เรายังให้สิทธิสมาชิกนักข่าวอาวุโสสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลค่าแอดมิต 5,000 บาท 2 ครั้งต่อปี ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกอีก 12 ครั้งต่อปี ครั้งละ 1,000 บาท” นางสาว น.รินี กล่าว

ด้านนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวขอบคุณที่คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ มาเยือนเครือมติชน พร้อมมอบเงิน จำนวน 1 หมื่นบาท ให้เป็นทุนเริ่มต้นแก่คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ สำหรับดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมนักข่าวฯ อีกทั้งได้ให้กำลังใจในการทำงานในช่วง 2 ปีจากนี้

“ผมเพิ่งอายุ 80 ปี เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ในชีวิตได้ค้นพบว่า กับดักอย่างหนึ่ง คือ กับดักตัวเองที่คิดว่าตัวเองใหญ่เท่านั้น เท่านี้ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ จะทำอย่างไรให้เราเป็นคนส่วนหนึ่งในคนส่วนใหญ่ให้ได้ ท่ามกลางปัญหาความยากจน การศึกษา ความเหลื่อมล้ำ ในยศถาบรรดามี ให้เอาคนส่วนใหญ่เป็นตัวตัดสิน ไม่ต้องให้คนนอกมาช่วย ขอให้ช่วยกัน แล้วศักดิ์ศรี ความเจริญ การยอมรับของสมาคมจะกลับมาเอง ขอขอบคุณทางสมาคมนักข่าวฯ ที่มาเยี่ยมเยือนในวันนี้ คิดว่าจะได้พบปะกันอีกในโอกาสต่อๆ ไป” นายขรรค์ชัย กล่าว