สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า อัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และใช้บุหรี่ไฟฟ้าในหมู่วัยรุ่น มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ และมีการเรียกร้องให้มีมาตรการจำกัดการการเข้าถึง หลังผลการสำรวจพบวัยรุ่นกว่า 280,000 คน ที่มีอายุ 11, 13 และ 15 ปี ในยุโรป เอเชียกลางและแคนาดา จำนวนมากเกี่ยวข้องกับการสารเสพติด
“ผลกระทบระยะยาวจากการใช้สารเสพติดเป็นเรื่องสำคัญ ผู้กำหนดนโยบายไม่ควรเพิกเฉยต่อตัวเลขนี้” ดับเบิลยูเอชโอ กล่าว
รายงานระบุว่า ร้อยละ 57 ของเด็กอายุ 15 ปี ดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 59 ในเด็กหญิง และร้อยละ 56 ในเด็กชาย จึงมีข้อสังเกตว่า อัตราการดื่มลดลงในเด็กผู้ชายและเพิ่มขึ้นในเด็กผู้หญิง
ขณะที่จำนวนของเด็กที่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยครั้งหนึ่ง ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ในเด็กชายอายุ 11 ขวบ คิดเป็นร้อยละ 8 เทียบกับร้อยละ 5 ในเด็กหญิง ขณะที่ตัวเลขในเด็กอายุ 15 ปี คิดเป็นร้อยละ 38 ในเด็กหญิง และร้อยละ 36 ในเด็กชาย
“การค้นพบครั้งนี้ เผยให้เห็นว่าแอลกอฮอล์เข้าถึงง่าย และกลายเป็นเรื่องปกติแค่ไหน มันแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการคิดหามาตรการอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากอันตรายที่เกิดจากแอลกอฮอล์” สำนักงานภูมิภาคของดับเบิลยูเอชโอในยุโรป ซึ่งครอบคลุม 53 ประเทศ รวมไปถึงเอเชียกลาง กล่าวในแถลงการณ์
นอกจากนั้น ร้อยละ 9 ของวัยรุ่นยังมีอาการเสพติดความมึนเมาอย่างน้อย 2 ครั้ง อัตรานี้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 ในกลุ่มเด็กอายุ 13 ปี และร้อยละ 20 ในกลุ่มเด็กอายุ 15 ปี โดยดับเบิลยูเอชโอระบุว่า ตัวเลขดังกล่าว “แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการดื่มสุราในเยาวชน”
นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึงการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้จำนวนการใช้บุหรี่แบบปกติลดลง โดยในปี 2565 ร้อยละ 13 ของเด็กอายุ 11 ถึง 15 ปี สูบบุหรี่น้อยจาก 4 ปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 2
นอกจากนั้น รายงานระบุว่า ร้อยละ 32 ของเด็กอายุ 15 ปี ใช้บุหรี่ไฟฟ้า และกว่าร้อยละ 20 ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
“การใช้สารอันตรายที่แพร่หลายอย่างมากในหลายประเทศทั่วภูมิภาคยุโรป และในพื้นที่อื่น ๆ ถือเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขที่ร้ายแรง” นพ.ฮันส์ คลูเกอ ผอ.องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป กล่าว
นพ.คลูเกอ เรียกร้องให้มีการจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้น และกำหนดกฎเกณฑ์ในการจำหน่ายและการโฆษณา รวมไปถึงการห้ามใช้สารแต่งกลิ่นและรส
“พฤติกรรมที่สร้างความเสี่ยงในช่วงวัยรุ่น สามารถกำหนดพฤติกรรมของพวกเขาในวัยผู้ใหญ่ได้ ซึ่งการใช้สารเสพติดตั้งแต่อายุยังน้อย จะส่งผลให้มีความเสี่ยงในการติดยาเสพติดที่สูงขึ้น” รายงานระบุ
อย่างไรก็ดี การใช้กัญชามีจำนวนลดลงถึงร้อยละ 12 ในเด็กอายุ 15 ปี ลดลงถึงร้อยละ 4 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อนึ่ง ดับเบิลยูเอชโอ มีโครงการ “สำรวจพฤติกรรมสุขภาพในเด็กวัยเรียน” (เอชบีเอสซี) ซึ่งทำการสำรวจทุก ๆ 4 ปี โดยจะตรวจสอบพฤติกรรมสุขภาพของเด็กวัย 11, 13 และ 15 ปี รวมไปถึงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติด.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
