เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2567 ร.ต.อ.พัสกร ปรุงเครื่อง รอง สว.(สอบสวน) สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน รับแจ้งเหตุผูกคอและรมควันเสียชีวิต 2 ราย ที่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งย่านฝ้ายคำแลนด์ หมู่ 8 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปริญญา ชัยเทวา ผกก.และ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพบศพ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี สภาพใช้เชือกไนล่อนแขวนคอ คาดเสียชีวตมาประมาณ 6-8 ชั่วโมง เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในห้องนอนพบศพ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี สภาพนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ข้างเตียงนอนพบเตาอังโล่ 2 เตาวางอยู่ ในเตามีขี้เถ้าถ่านไฟดับไปแล้วจำนวนหนึ่ง

ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามบริเวณบ้านพบว่าทั้งสองผัวเมียตั้งใจรมควันตัวเอง โดยกล้องบันทึกภาพขณะฝ่ายเมียก่อไฟแล้วยกไปไว้ในห้องนอน ที่มีสามีนอนอยู่ด้วย แต่เวลาผ่านไปสักพักแล้วฝ่ายเมียน่าจะเสียชีวิตไปแล้วจากการรมควัน สันนิษฐานว่าเตาคงมอดดับแล้วแต่ฝ่ายชายยังไม่เสียชีวิต จึงเดินออกมาคว้าเชือกมาแขวนคอที่หน้าบ้าน นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตายเขียนไว้ 2 ฉบับ มีข้อความว่า “พี่นาช่วยเผาศพเราทั้ง2ทีครับ ขอให้เผาที่ลำพูนเลยครับ กราบขอโทษพี่ๆทุกคนและมีหมายเลขโทรศัพท์ระบุเบอร์ติดต่อญาติไว้” อีกฉบับเขียนว่า “อยากขอโทษทุกคนที่ตัดสินใจทำแบบนี้ อยากให้เผาเลยไม่ต้องจัดงาน ขอโทษแม่ ยาย น้อง ที่ตัดสินใจสิ้นคิดแบบนี้ แต่คิดมาแล้ว วันนี้ต้องมาถึง ขอโทษที่ทำไม่ได้ ขอโทษแม่กับแม่หลวงโตยเน้อ” จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายเอ ได้ไปยืมเงินพี่เขยมากว่า 6 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนเปิดห้างหุ้นส่วนทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งเขตอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ แต่ทำไปแล้วถูกชักดาบเจ้าของงานไม่จ่ายเงิน และรับเหมางานก่อสร้างอีกหลายแห่งก็ขาดทุน ประกอบกับตัวนายเอ ยังป่วยและมีโรคประจำตัวที่ต้องใช้เงินในการรักษาจำนวนมาก จึงอาจทำให้เกิดความเครียดและชวนภรรยาคิดสั้นไปพร้อมกันทั้งสองคน เพื่อหนีปัญหาชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ประกอบกับมีหลักฐานวงจรปิดในที่เกิดเหตุชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป