เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระหนูใจ โพสาวัง อายุ 75 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวบ้านผ้าขาว ต.ม่วงไข่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ออกไปปฏิบัติธรรมในเขตเทือกเขาภูพาน บ้านโคกภู ต.โคกภู อ.ภูพาน จ.สกลนคร แล้วหายตัวไป ญาติไม่สามารถติดต่อได้ จึงออกตามหาบริเวณจุดต่างๆ ที่พระเคยไปปฏิบัติธรรม กระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ญาติพบสังขารพระบริเวณเทือกเขาภูพาน ห่างถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 19 กม. นอนมรณภาพอยู่ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด

จากนั้นญาติได้ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูพาน พร้อมขอความช่วยเหลือจาก กลุ่มเอ็นดูโร่ รถ จยย.วิบาก และชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยเหลือนำสรีระสังขารของพระหนูใจ ลงจากเขา เนื่องจากจุดที่พบไกลกว่า 19 กม. และยังต้องเดินเท้าขึ้นเขาสูงชันเข้าไปอีก 1 กม. ซึ่งรถ จยย.ธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยปฏิบัติการนำสรีระสังขารพระออกมา มีคลิปภาพบันทึกไว้จากทีมค้นหาที่ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องอีกทั้งต้องมัดสรีระสังขารห่อคลุมไว้อย่างแน่นหนา แบกเดินเท้าลงมาเขาระยะทาง 1 กม. มายังจุดจอดรถ จยย.วิบาก แล้วนำสรีระสังขารนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.วิบาก มัดติดกับตัวคนขี่ กลับลงมาจากเขาให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่บ้านเกิด

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบนายเอ็ม วัชรินทร์ สมาชิกกลุ่มเอ็นดูโร่ ซึ่งเป็นคนขี่ จยย.วิบาก ที่นำสรีระสังขารของพระหนูใจ ลงมาจากเขา เล่าให้ฟังว่า ได้รับการประสานงานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูพาน ตนกับกลุ่มเพื่อนขี่ จยย.วิบากด้วยกัน จึงเร่งเดินทางไปยังจุดพบร่างพระสงฆ์ดังกล่าว ภาพที่เห็นตอนแรก คือท่านน่าจะมรณภาพในท่านอนหงาย ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่ที่น่าสังเกต คือสรีระสังขารของท่านไม่มีของเหลวไหลจากร่างกายเลย ผิวหนังแห้งไม่อืดบวมหรือเน่าเปื่อยแต่อย่างใด ทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าว

นายเอ็ม เล่าอีกว่า ซึ่งตามความเชื่อที่ตนเคยศึกษาตามพุทธศาสนามา สรีระสังขารเช่นนี้ จะเป็นเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีและผู้มีศีลบริสุทธิ์ ท่านจึงไม่เน่าเปื่อย สามารถกราบไหว้ได้บริสุทธิ์ใจ ทั้งนี้ สาเหตุการมรณภาพน่าจะเกิดจากร่างกายขาดน้ำหรือฮีทสโตรก และเชื่อว่าพระไม่ได้หลงป่าอย่างที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดกัน เพราะพระหนูใจ เคยเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่แห่งนี้แล้ว รู้เส้นทางดี แต่คาดว่าครั้งนี้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว และห่างไกลจากแหล่งน้ำ ประกอบกับพระหนูใจชราภาพ จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มรณภาพซึ่งญาติไม่ติดใจใดๆ