เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส. และตัวแทนเจ้าหน้าที่ จากสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 คดี ผู้ต้องหารวม 5 ราย ของกลางยาบ้า 4,299,965 เม็ด ไอซ์ 130 กิโลกรัม เคตามีน 2 กิโลกรัม รถยนต์ 4 คัน ปืน 4 กระบอก และเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก

พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวว่า คดีแรกเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 สนธิกำลังร่วมกับทหาร และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. สืบสวนจับกุมนายทวี โสภณมหาลาภ อายุ 45 ปี ชาว จ.เชียงราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 3,800,000 เม็ด เคตามีน 2 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ 1 คัน และอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน 1 กระบอก หลังสืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดชาติพันธุ์อาข่าบ้านผาขาว จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้ามาพักส่งขายพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยใช้รถกระบะ จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางที่ผ่านเข้ากรุงเทพฯชั้นใน กระทั่งพบรถกระบะคลุมผ้าใบปิดมิดชิดลักษณะต้องสงสัยขับมาในพื้นที่ หมู่ 7 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงเรียกตรวจค้นจับกุม สอบสวนนายทวี เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ารับจ้างจากนายทุนให้ลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดของกลางไปส่งให้กับลูกค้าในภาคกลาง จึงนำตัวพร้อมของกลาง ส่ง บช.ปส. สอบสวนขยายผล ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ บก.ขส.บช.ปส. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จับกุมนายจักรพัฒ โกสิลา อายุ 42 ปี ชาว จ.หนองคาย นายนพคุณ กะรัมย์ อายุ 36 ปี ชาว จ.หนองคาย นายประมุข จราจร อายุ 28 ปี ชาว จ.สงขลา และ น.ส.พนิดา แสวงวงศ์ อายุ 25 ปี ชาว จ.สงขลา พร้อมของกลาง ไอซ์ 130 กิโลกรัม ยาบ้า 499,965 เม็ด รถกระบะ 3 คัน อาวุธปืน AK-47 (อาก้า), M4, และปืนลูกซอง อีกอย่างละ 1 กระบอก จับกุมได้ริมถนนพหลโยธิน หน้าตลาดวังน้อยเมืองใหม่ ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องบริเวณลานจอดรถดูโฮม สาขารังสิต ถนนรังสิต-นครนายก ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

พล.ต.ท.สราวุทธ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.บึงกาฬ เข้ามาในพื้นที่ภาคกลาง จึงเฝ้าสะกดรอยติดตามกระทั่งสามารถจับกุมตัวพร้อมของกลางดังกล่าว สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของนายทุนยาเสพติดภาคอีสานรายหนึ่งว่าจ้างให้ขนลำเลียงเข้ามาส่ง โดยได้ค่าจ้าง 1 แสนบาทต่อครั้ง ที่ผ่านมาเคยขนสำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่มากที่สุดเป็นไอซ์จำนวน 150 กิโลกรัม ยาบ้า 1 แสนเม็ด จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผบช.ปส.กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ยังคงยืนยันนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ตั้งเป้าลดการลักลอบค้า และผลิตยาเสพติด รวมถึงการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และยังตั้งเป้าในการบำบัดผู้ติดยาเสพติด เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ ซึ่งขณะนี้กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขให้ทันสถานการณ์ จึงเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้การทำงานของตำรวจปราบปรามยาเสพติดง่ายขึ้นในอนาคต