ทำเอาชาวเน็ตเป็นห่วงกันเป็นอย่างมาก สำหรับ “น้องอลิน” ลูกสาวฝาแฝดของพิธีกรชื่อดัง “โอปอล์ ปาณิสรา” และคุณหมอ “โอ๊ค-สมิทธิ์ อารยะสกุล” หลังจากที่น้องอลิน ติดเชื้อไวรัสที่เรียกว่า “เชื้อไข้นอนกรน” หรือ “Adeno virus” จนทำให้น้องต้องแอดมิตเข้าโรงพยาบาล ซึ่งในช่วงนี้เชื้อไวรัสดังกล่าวกำลังระบาดเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่า “ไข้นอนกรน” คืออะไร? แล้วเราควรดูแลบุตรหลานอย่างไรบ้าง?
-‘หมอโอ๊ค’ อัปเดตอาการล่าสุด ‘น้องอลิน’ ป่วยติดเชื้อไวรัส ตอนนี้ระบาดหนัก

อะดีโนไวรัส (Adenovirus) คืออะไร
โดย พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์ กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา ศูนย์สุขภาพเด็ก (Children’s Health Center) โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายว่า อะดีโนไวรัสเป็นเชื้อไวรัสในกลุ่มทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร พบได้บ่อยในกลุ่มเด็กเล็ก อายุ 6 เดือน-5 ปี แต่ในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 3 เดือน มักมีอาการของระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงได้มากกว่า รวมถึงเด็กที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

โดย เชื้อไวรัสชนิดนี้มักสามารถอยู่ในอากาศ และพื้นผิวสิ่งแวดล้อมได้ค่อนข้างนานเป็นเดือน จึงพบเห็นระบาดได้เกือบทั้งปี สามารถถูกกำจัดผ่านพื้นผิวด้วยความร้อน และสารฟอกขาว ดังนั้นจำเป็นต้องเฝ้าระวังติดต่อสู่กันผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
1. สารคัดหลั่ง ละอองฝอย น้ำมูก น้ำลาย ขี้ตา
2. ผ่านทางอาหารและน้ำที่มีการปนเปื้อน ผ่านการสัมผัสโดยตรง ทั้งสัมผัสพื้นผิวปนเปื้อน แม้แต่การกินอาหารร่วมกัน หรือผ่านทางอากาศ จากการไอจาม ของผู้ที่มีเชื้ออยู่ก่อน

อาการที่พบได้บ่อย หลัก ๆ ได้แก่
– อาการทางระบบทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ กลืนลำบาก เสียงแหบ
– อาการไข้หวัด คออักเสบ กล่องเสียงอักเสบ เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก หายใจลำบาก นอนกรน
– อาการโพรงจมูกอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เช่น หายใจลำบาก ไปจนถึงมีอาการหายใจหอบเหนื่อย
– อาการเยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดง เช่น ตาแดง น้ำตาไหล เจ็บตา มีขี้ตา
– อาการลำไส้อักเสบ บางรายอาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ร่วมด้วยได้
ระยะเวลาเฉลี่ยของการเจ็บป่วยจาก Adenovirus หรือมีไข้ อยู่ประมาณ 4-7 วัน ในเด็กเล็ก มักพบว่ามีอาการของทางเดินหายใจที่รุนแรงได้มากกว่า มีไข้สูง เบื่ออาหาร กินไม่ได้ ร่วมกับอาการขาดน้ำได้มากเช่นกัน

การตรวจวินิจฉัยอะดีโนไวรัส
ในปัจจุบันทำได้ง่าย คือ การเก็บสิ่งส่งตรวจสารคัดหลั่ง Nasal Swab rapid test for Adenovirus หรือ ส่ง PCR สารคัดหลั่ง หรือขี้ตา เพิ่มเติมได้ หากมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว การเก็บอุจจาระตรวจ สามารถหาเชื้อ Adenovirus ได้เช่นกัน

การรักษา
สำหรับการรักษาโรคที่เกิดจากไวรัสอะดีโนในเด็กนั้น พญ.ฐิติอร นาคบุญนำ ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 3 ได้เผยว่า การป่วยไข้นอนกรนในเด็กนั้น ไม่มียาต้านไวรัส จึงได้รับการรักษาแบบประคับประคองตามอาการที่แสดง
– การให้น้ำและของเหลว : เพื่อป้องกันการขาดน้ำจากอาการท้องเสียหรืออาเจียน
– การใช้ยาลดไข้ : เช่น พาราเซตามอล สำหรับบรรเทาอาการไข้และความไม่สบาย
– การพักผ่อน : การพักผ่อนเพียงพอสามารถช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น

การป้องกัน
การป้องกันไวรัสอะดีโนในเด็ก ควรเน้นไปที่การลดการสัมผัสกับเชื้อและการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
– การล้างมืออย่างถูกวิธี เป็นวิธีหลักในการป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังจากไปห้องน้ำ
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการของการติดเชื้อ
– การใช้ผ้าปิดปากและจมูก เมื่ออยู่ใกล้ผู้ที่มีอาการป่วย
– การทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยครั้งด้วยสารฆ่าเชื้อ

“โดยรวมแล้ว การตระหนักและการดำเนินการตามขั้นตอนการป้องกันที่เหมาะสม สามารถช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสอะดีโนในเด็กได้ หากอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม”..

ขอบคุรข้อมูลจาก @navavej,@phyathai