จากเหตุการณ์ คุณยายวัย 71 ปี เดินพลาดตกท่อระบายน้ำได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอาหาร ถนนชัยพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา เบื้องต้นฝ่ายงานเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายธรรมรงค์ ปลีประโคน อายุ 33 ปี เจ้าของร้านอาหาร “ตำจอก” เปิดเผยว่า การก่อสร้างแถวนี้ไม่เคยมีฝาท่อระบายน้ำ ชาวบ้านต้องระมัดระวังการเดินเท้าเอาเอง ถ้าพลาดคือตกท่อแน่นอน ส่วนตรงหน้าร้านตนมีแสงสว่างทำให้ลูกค้าพอจะมองเห็น ก่อนหน้านี้ทางโครงการเอาไม้พาเลทมาวางกันเอาไว้เพื่อให้ระวังท่อ สุดท้ายยายก็ไปตกตรงจุดที่มืด ถือเป็นคนแรกที่เขามาทำท่อแล้วมีคนตกลงไป ทั้งนี้ร้านอาหารของตนเปิดมาได้ 1 ปี พร้อม ๆ กับโครงการทำถนน สอบถามก็ทราบว่าจะเสร็จช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 67 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ยังมีการทำต่อไปเรื่อย ๆ จยย.ที่ขี่ผ่านถนนต้องระมัดระวังอุบัติเหตุหากเจอหลุมขนาดใหญ่

ด้านนายวรวุฒิ สุขแสวง ผจก.โครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ กล่าวว่า ตรงจุดที่เกิดเหตุเป็นบ่อพักท่อระบายน้ำ ซึ่งฝาบ่ออยู่ในระหว่างก่อสร้าง และได้นำไม้พาเลทมาวางปิดไว้ แต่ไม้พาเลทได้หายไป เมื่อถามร้านค้าข้างทางยืนยันว่ามีคนมาหยิบเอาไป ซึ่งทางโครงการยังไม่ทราบเรื่องจนมาเกิดอุบัติเหตุก่อน หลังจากทราบข่าวได้เอาแบริเออร์มาวางปิดทับไว้ก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการนำฝาปูนที่หล่อเสร็จแล้วมาปิดทับแทนต่อไป คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน ช่วงนี้นำแบริเออร์มาปิดไว้ก่อน ส่วนผู้บาดเจ็บตนได้เดินทางไปเยี่ยมที่ รพ.ปากเกร็ด 2 แต่ผู้บาดเจ็บได้ย้ายไป รพ.วชิระเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ตนได้ประสานกับทางลูกสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วว่า ยินดีรับผิดชอบเยียวยาค่ารักษาให้ทั้งหมด

ต่อมา นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ได้เดินทางมาตรวจสอบบ่อท่อระบายน้ำจุดเกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า หลังทราบข่าวได้ขับรถมาสำรวจเส้นทางการก่อสร้างโครงการทั้งสองฝั่งแล้ว พบว่าโครงการยังไม่เรียบร้อยจริง ทำให้ประชาชนสองข้างทาง และผู้ใช้รถใช้ถนนต่างได้รับความเดือดร้อน ฉะนั้นจะต้องดูแลให้เรียบร้อยเสียก่อน ผู้รับเหมาห้ามปฏิเสธความรับผิดชอบและต้องแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นก่อน ตอนนี้ได้สั่งการให้ระงับงานก่อสร้างอื่นๆ ทั้งหมดแล้ว

พร้อมกับให้หาแผ่นเหล็กหรือแผ่นปูนมาปิดแก้ไขไปก่อน ไม่ให้ใช้ตะแกรงไม้แบบนี้มาปิดปากบ่อ เพราะมันไม่แข็งแรง ซึ่งวันนี้จะต้องไล่ทำการปิดฝาบ่อท่อระบายทั้ง 2 ฝั่งให้แล้วเสร็จเสียก่อน ซึ่งมีประมาณอยู่เกือบ 100 บ่อ โดยเรื่องนี้ทางกรมฯ ได้กำชับมาตลอด หลังจากนี้ตนจะเข้าไปประชุมหามาตรการแก้ไขเร่งด่วนเพื่อควบคุมให้การแก้ไขเป็นไปด้วยดีด้วย อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษผู้เสียหายด้วย เรื่องนี้ทางกรมฯ มีนโยบายอยู่แล้วว่า ทุกโครงการก่อสร้างจะต้องไม่ทำให้คนใช้รถใช้ถนนและประชาชนสองข้างทางต้องเดือดร้อน ส่วนผู้บาดเจ็บจะต้องเข้าไปดูแลเยียวยาแก้ไขด้วยเช่นกัน.