เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ได้มีชาวประมงใน ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา จำนวนกว่า 100 คน ได้ทำการปิดท่าแพขนานยนต์ ฝั่ง อ.สิงหนคร เพื่อประท้วงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคืนโพงพาง ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเป็นของกลาง ในการจับกุมเจ้าของโพงพาง 2 ราย ในทะเลสาบสงขลา เมื่อเวลา 06.00 น.ของวันเดียวกัน

ในขณะที่เจ้าของโพงพางลงไปจับปลาที่ติดโพงพาง และนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับการปิดแพขนานยนต์ในครั้งนี้ ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่สัญจรระหว่าง อ.เมือง และ อ.สิงหนคร  เป็นอย่างมาก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ อบจ. ที่เป็นผู้รับผิดชอบแพขนานยนต์ที่ใช้ข้ามฟาก ได้ประกาศงดการให้บริการ จนกว่าจะมีการยกเลิกการปิดท่าแพในฝั่ง อ.สิงหนคร และ ให้ประชาชนใช้เส้นทางสะพานติณสูลานนท์แทน

โดยก่อนหน้านี้ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มีการประกาศรื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมายในทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะโพงพาง จำนวน 150 กว่าปาก ที่กีดขวางการเดินเรือประมง เรือสินค้า เรือของบริษัทขุดเจาะแก๊ส และน้ำมันในอ่าวไทย และเรือของทางราชการ  ซึ่งครบกำหนดผ่อนผัน ให้เจ้าของมารื้อถอนภายในวันที่ 22 พ.ค. แต่ไม่มีเจ้าของมารื้อถอน จึงได้สั่งการให้ประมงจังหวัดสงขลา และเจ้าท่าจังหวัดสงขลา เข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของโพงพาง ในข้อหาเรื่องมีเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย และรุกล้ำร่องน้ำการเดินเรือ แต่ไม่เป็นผล เพราะไม่มีใครยอมรื้อถอน โดยมีการต่อรองว่าจะขอเงินค่ารื้อถอน ปากละ 450,000 บาท เป็นการเยียวยา

หลังการปิดแพขนานยนต์ของกลุ่มประมง นายสมนึก ได้ประสานงานกับกลุ่มผู้ปิดถนนให้ส่งตัวแทนมาเจรจาที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาจำนวน 3 คน เพื่อทำการคลี่คลายปัญหา โดยกลุ่มผู้ประท้วงปิดท่าแพ ขอให้มีการคืนเครื่องมือทำการประมง (โพงพาง) ที่เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลาง และขอให้เจ้าหน้าที่หยุดการจับกุมเจ้าของโพงพาง เพราะการทำโพงพางเป็นอาชีพของชาวประมงใน อ.สิงหนคร  ซึ่งการเจรจายังไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้จำนวนผู้ประท้วงเพิ่มมากขึ้น โดยมีการนำเต็นท์มาปักหลักที่ท่าแพขนานยนต์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การปิดท่าแพขนานยนต์จะมีการยืดเยื้อ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำตามข้อเรียกร้องของชาวประมง

ปัญหาของโพงพางผิดกฎหมาย ในทะเลสาบสงขลา ยืดเยื้อมานานเป็น 10 ปี โดยมีการปักโพงพางเป็นช่องๆ ที่รุกล้ำร่องน้ำในการเดินเรือกว่า 5 กิโลเมตร ทำให้เจ้าของเรือชนเอาโพงพาง และต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับเจ้าของโพงพาง และการเดินเรือในทะเลสาบสงขลาเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะมีโพงพางขวางอยู่ในร่องน้ำ เจ้าของกิจการเดินเรือได้รวบรวมเงิน 11 ล้านบาทให้กับนายธำรงเจริญกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เจ้าของโพงพาง ที่ขวางร่องน้ำไปแล้วเมื่อปี 2559

แต่หลังจากนั้น ก็มีการนำโพงพางมาปักขวางร่องน้ำอีก ต่อมา กรมประมงได้ประกาศให้เครื่องมือโพงพาง เป็นเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย จังหวัดสงขลา ได้พยายามเข้าทำการรื้อถอนมาโดยตลอด แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะมีการข่มขู่ว่าจะมีการรื้อถอน จะรวมตัวกันประท้วงด้วยการปิดแพขนานยนต์ และสะพานติณสูลานนท์ ที่เป็นท่าเชื่อมระหว่าง จ.สงขลา กับ อ.สิงหนคร ซึ่งเป็นเส้นทางในการเดินทางไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ที่เลียบชายทะเลอ่าวไทย