เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงการณ์เปิดประเทศว่า เป็นพฤติกรรมแบบขายผ้าเอาหน้ารอด หลังแผนเปิดประเทศใน 120 วันล้มเหลว ขณะที่เครื่องมือการชี้วัดต่างๆ ไม่เอื้อให้กับการเปิดประเทศเลย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จึงออกมาแก้ด้วยการเลื่อนเปิดประเทศเป็นวันที่ 1 พ.ย.นี้ แทน โดยการเปิดประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่คำนึงถึงความพร้อมในการดูแลสุขภาพชีวิตประชาชนและเศรษฐกิจปากท้อง

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ อ้างว่าจำเป็นต้องเลือก หากช้ากว่านี้ไม่ทันการ ทั้งๆที่รัฐบาลไม่จำเป็นต้องเลือก ผู้บริหารที่ฉลาดเขาจะเลือกทั้งคู่ คือ ทั้งประชาชนและเศรษฐกิจไปพร้อมๆกัน ประเทศอื่นๆทั่วโลกเขาทำมานานแล้ว ดังนั้นชัดเจนว่า รัฐบาลเลือกเศรษฐกิจเป็นหลักมากกว่าที่จะปกป้องชีวิตประชาชน ทั้งนี้ประชาชนในประเทศยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดี ซึ่งการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเข็มแรกได้ไม่ถึงร้อยละ 40 ขณะที่เข็มที่ 2 เพียงร้อยละ 32 จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ ยังห่างไกลจากเป้าหมายร้อยละ 70 ของรัฐบาลมาก ส่วนวัคซีนของรัฐบาลจัดให้ประชาชน เป็นวัคซีนที่หลายประเทศไม่ให้การยอมรับ

“ปัจุบันหลายจังหวัดมีการติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดการท่องเที่ยว ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต มีคลัสเตอร์ใหม่ๆเกิดขึ้น ขณะที่กรุงเทพฯมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงถึง 2,000 คนต่อวัน ถือว่าหนักมาก สรุปโดยรวมว่า ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะเปิดประเทศ ขณะเดียวกันระบบสาธารณสุขของไทยยังคงต้องทำงานหนัก เพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระบบมากกว่า 100,000 คน เชื่อว่านักท่องเที่ยวเขาไม่มาอย่างแน่นอน สุดท้ายจากภาพรวมที่เกิดขึ้น โดยนักท่องเที่ยวไม่เชื่อมั่นในการป้องกันการติดเชื้อในประเทศไทย” นพ.ชลน่าน กล่าว.