ดร.วิภา สายรัตน์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สระบุรี เขต 1 กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมมือกับมรภ.สวนสุนันทา จัดโครงการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ด้วยรูปแบบ Active Learning สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสพฐ. (1 อําเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ) ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลศาลาแดง สพป.สระบุรี เขต 1 เมื่อวันที่ 10-11 ส.ค. ทั้งนี้การเรียนรู้แบบ Active Learning มีส่วนสำคัญในการพัฒนานักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ที่นำไปสู่วิธีการปฏิบัติ ซึ่งเป็นวิธีการเรียนรู้ วิธีการทำงานที่นำสู่ผลที่ดี และนำสู่การพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา โดยพัฒนาครูให้มีศักยภาพที่สอดคล้องกับศตวรรษที่ 21 การอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญให้เกิดการปฏิรูปการเรียนรู้ระดับห้องเรียน ให้ครูเปลี่ยนแปลงกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่จะนำไปสู่การสร้างและพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนวัตกร นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Soft Power) ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยโรงเรียนในสังกัด สพป.สระบุรี เขต 1 ทั้ง 116 โรงเรียน ได้เข้าสู่การจัดการเรียนการสอนผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งหลังจากที่โรงเรียนได้จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps พบว่า ปีที่ผ่านมาผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ในทุกกลุ่มสาระ มีหลายโรงเรียนที่เด็กสามารถทำคะแนนได้ 100 คะแนนเต็ม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเด็กด้อยโอกาส และเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ ที่เราจะต้องเติมเต็ม โดยบางโรงเรียนก็ได้ใช้หลักการ Active Learning เข้าไปใช้ตามความถนัดของเด็กซึ่งไม่เพียงแค่ส่งเสริมเด็กที่เก่งเท่านั้น แต่เราก็ไม่ลืมเด็กที่อาจจะขาดองค์ความรู้ที่ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป จึงถือว่าการเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นคำตอบที่ใช่ และสามารถพัฒนานักเรียนและครูได้อย่างแท้จริง

ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กล่าวว่า สิ่งที่กังวล คือ โรงเรียนหลายแห่งคิดว่าให้เด็กได้คิด ได้ทำบ้างก็ถือว่าเป็น Active Learning แต่จริงๆแล้ว Active Learning คือ บทบาทการเรียนรู้ของผู้เรียนเกือบ 100% โดยหัวใจของ Active Learning คือ ทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้ได้ทุกมิติ ตั้งแต่คิดวิเคราะห์ มีคุณธรรม ค่านิยม ทักษะ และกระบวนการพัฒนา จนเกิดผลผลิตไปสู่นวัตกรรมได้ ซึ่งต้องใช้กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps ซึ่งจะตกผลึกอยู่ในตัวเด็กแล้วนำไปเรียนรู้ได้ทุกเรื่อง ทุกมิติ ผ่านกระบวนการอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพราะฉะนั้น GPAS 5 Steps จึงสามารถกลั่นกรองข้อมูลไปเป็นองค์ความรู้แล้วทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมได้ อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ คนไทยเรียนรู้เองไม่เป็น ที่เรียนรู้เองเป็นมีน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนรู้แบบทำตามคำสั่ง ตามแบบแผนที่วางไว้ แต่การคิดสร้างสรรค์แทบจะไม่มี เพราะฉะนั้นถ้า Active Learning สามารถพลิกโฉมประเทศไทยได้ เด็กไทยก็จะคิดสร้างสรรค์ได้ตั้งแต่ระดับประถมฯและมัธยมฯและยิ่งไปถึงระดับมหาวิทยาลัยก็จะสามารถเข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติและระดับโลกได้ และถ้าเด็กเรียนรู้แบบ Active Learning ได้อย่างถ่องแท้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีการปรับหลักสูตร

น.ส.สุพิชฌาย์ เลาหะพานิช ศึกษานิเทศก์ สพป.สระบุรี เขต 1 กล่าวว่า สพป.สระบุรี เขต 1 มีการจัดโครงการพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้ Active Learning ซึ่ง GPAS 5 Steps ก็เป็นส่วนหนึ่งในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ซึ่งพบว่า กระบวนการ GPAS 5 Steps ใช้ได้ดีในหน่วยบูรณาการ โดยครูสามารถบูรณาการกับสาระการเรียนรู้ต่างๆ ในโรงเรียนแล้วนำไปเขียนแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อออกแบบการเรียนรู้ให้เกิดผลกับนักเรียน ซึ่งเมื่อครูนำไปใช้แล้วพบว่า นักเรียนเกิดการเรียนรู้มีนวัตกรรมเกิดขึ้น เช่น ที่โรงเรียนอนุบาลเสาไห้ ขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ GPAS 5 Steps ตั้งแต่อนุบาลจนถึงป. 6 โดยได้บูรณาการการเรียนรู้ลุ่มน้ำป่าสักรักถิ่นไทยญวน นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนและวิถีชีวิตของชาวไทยญวน จนได้นวัตกรรม เช่น แผนที่การเดินไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นวัฒนธรรมไทยญวน ได้หนังสือเล่มเล็กเล่าเรื่องวัดสมุหประดิษฐาราม และได้นวัตกรรมเรื่องของการออกแบบลายผ้าซิ่นทอลายมุก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทยญวน ได้เอกลักษณ์การแสดงนาฏศิลป์ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยญวน เป็นต้น นอกจากนี้ยังนำ Active Learning ไปใช้กับเด็กพิเศษหรือเด็กบกพร่องทั้ง 9 ประเภท พบว่า เด็กกลุ่มนี้จะเรียนรู้ได้ดีต้องผ่านกระบวนการ Active Learning ซึ่งครูสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นให้เด็กลงมือปฏิบัติจริง โดยเฉพาะเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ ครูจะใช้การจัดการเรียนการสอนที่เป็น Active Learning สอนกระตุ้นให้เด็กคิดและเรียนรู้ โดยเฉพาะการอ่าน การเขียน ซึ่งเด็กจะให้ความสนใจ เมื่อครูปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน ปรากฏว่าเด็กสามารถอ่าน ออกเขียนได้ในระดับที่ดี