สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา ( แอฟริกา ซีดีซี ) เผยแพร่รายงานอัปเดต สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง หรือ เอ็มพ็อกซ์ ภายในภูมิภาค นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ว่ามีผู้ป่วยยืนยันสะสมอย่างน้อย 18,737 คน ในอย่างน้อย 12 ประเทศสมาชิกสหภาพแอฟริกา ( เอยู )
ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวอยู่ที่อย่างน้อย 541 ราย ในทวีปแอฟริกา คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 2.89% ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ( ดีอาร์คองโก ) มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุดอย่างน้อย 1,005 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 23 ราย
The head of @WHO @DrTedros says the rise in mpox cases across Africa now constitutes a public health emergency of international concern. Here are some key facts:https://t.co/agYCbPIGfx pic.twitter.com/BzpDibtKNr
— UN News (@UN_News_Centre) August 14, 2024
อนึ่ง การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในดีอาร์คองโก คือกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “เคลด 1บี” ซึ่งกลายพันธุ์มาจากกลุ่มสายพันธุ์ที่ 1 หรือเคลด 1 ทำให้ทุกฝ่ายวิตกกังวลว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะยิ่งรุนแรง เนื่องจากเดิมทีเชื้อเคลด 1 มีความรุนแรงระดับสูงสุดในบรรดาทุกสายพันธุ์อยู่แล้ว และมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10%
Learn about #mpox and how WHO is working with partners to contain the current mpox outbreak in #DRC.???? pic.twitter.com/tCytC2bgty
— World Health Organization (WHO) (@WHO) August 17, 2024
แม้ฝีดาษลิงถือเป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นของทวีปแอฟริกา แต่การที่สถิติผู้ป่วยยืนยันในปีนี้ ทำลายจำนวนผู้ป่วยสะสมของทั้งปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 14,383 คน และประเทศเพื่อนบ้านของดีอาร์คองโกพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประกาศในสัปดาห์นี้ ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง “เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” อีกครั้ง หลังเคยประกาศมาแล้ว ระหว่างปี 2565-2566.
เครดิตภาพ : AFP