สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี และนางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เข้าร่วมพิธีประกาศเริ่มต้นการก่อสร้างโรงงาน ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของทีเอสเอ็มซี ซึ่งฟอน แดร์ เลเยน ยกย่องว่าเป็นการรับรองยุโรปในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก
ทั้งนี้ ทีเอสเอ็มซี กำลังลงทุนประมาณ 3,500 ล้านยูโร (ราว 133,000 ล้านบาท) ในโครงการสร้างโรงงานที่เมืองเดรสเดน และจะถือเงินทุน 70% ส่วนบริษัท เอ็นเอ็กซ์พี ผู้ผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ และบริษัท อินฟินีออน กับบริษัท บ็อช ของเยอรมนี จะถือเงินทุนที่เหลืออีกบริษัทละ 10%
แม้ไต้หวันเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ทรงพลัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการครองตลาดของทีเอสเอ็มซี แต่ฟอน แดร์ เลเยน กล่าวว่า ห่วงโซ่อุปทานมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการชะงักงัน เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ระหว่างไต้หวันกับจีน ด้วยเหตุนี้ ทีเอสเอ็มซีจึงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ขยายการดำเนินงาน โดยเปิดโรงงานแห่งใหม่ในส่วนอื่นของโลก
ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศตะวันตกเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่า เพื่อนำการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาใกล้ประเทศ หรือตั้งอยู่ในประเทศ ซึ่งโชลซ์กล่าวถึงความจำเป็นในการพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์ สำหรับเทคโนโลยีที่ยั่งยืนในอนาคต ตลอดจนการไม่พึ่งพาภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก ในการจัดหาชิป
อนึ่ง โรงงานของทีเอสเอ็มซีในเมืองเดรสเดน จะดำเนินการผลิตเซมิคอนดักเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์หลักของเยอรมนี ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี).
เครดิตภาพ : AFP