เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า จากคาดการณ์สภาพอากาศตั้งแต่วันนี้ 15-17 ต.ค. ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งจากการประเมินปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ พบว่า มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เสี่ยงมีปริมาณน้ำเกินความจุ จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นสะสม 3 วันล่วงหน้า 4 แห่ง ได้แก่ อ่างฯ ทับเสลา จ.อุทัยธานี ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 162 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 101% ของความจุ คาดว่าจะมีน้ำไหลลงอ่างฯสะสม เพิ่มขึ้น 29 ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ กระเสียว จ.สุพรรณบุรี ปริมาณน้ำ 292 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 98% ของความจุ คาดการณ์น้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มขึ้น 13 ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ ขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ปริมาณน้ำ 224 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 100% ของความจุ คาดการณ์น้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มขึ้น 11 ล้านลบ.ม. และอ่างฯ นฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี ปริมาณน้ำ 307 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 104% คาดการณ์น้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มขึ้น 32 ล้าน ลบ.ม.

พร้อมกันนี้ ยังต้องเฝ้าระวังอ่างฯ ขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 95% ในพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณภาคเหนือ จ.กำแพงเพชร ภาคกลาง จ.ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย อำนาจเจริญ ชัยภูมิมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรีตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้สั่งการให้ กอนช. ประสานและแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาวางแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำและในลำน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบจากน้ำล้นอ่างเก็บน้ำเข้าท่วมพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำให้น้อยที่สุด ตรวจสอบเสถียรภาพและความมั่นคงของตัวเขื่อน รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงให้ทราบและเตรียมความพร้อมรับมือ ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุดด้วย