สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า นายอัล วูล์ฟ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือสัตว์เลื้อยคลานเขตโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า เขาเคยเข้าช่วยเหลือจับงูที่เข้าไปในบ้านคน ครั้งหนึ่งเคยจับได้บ้านละหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น แต่ล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เขาได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของบ้านในเมืองซานตา โรซา เขตตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย บอกว่า เธอเห็นงูหางกระดิ่งหลายตัวอยู่ใต้พื้นบ้าน


นายอัล วูล์ฟ เปิดเผยว่า เขาจึงลงไปช่วยจับงูขึ้นมาได้หลายตัวด้วยกัน มากถึงขนาดต้องเอาถังไป 2 ถัง ถุงมือหนาเพื่อความปลอดภัย แล้วต้องมุดลงไปใต้พื้นบ้าน ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง มีทั้งใยแมงมุม สกปรก เหม็นอับ แต่เมื่อเป็นงานก็ต้องทำ และผลออกมาก็คือเขาใช้ไม้ง่ามยาว 60 ซม.สำหรับจับงู ได้งูหางกระดิ่งโตเต็มวัย 22 ตัว และลูกงูอีกราว 59 ตัว นั่นคือครั้งแรกที่เขาไปจับงูที่บ้านหลังนี้ที่อยู่บนเขามายาคามาส เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเขาได้กลับไปจับงูที่บ้านนั้นอีกสองครั้ง ได้งูหางกระดิ่งกลับมาอีก 11 ตัว พร้อมด้วยซากแมวตายอีก 1 ตัว และพอสซัม 1 ตัว


งูทั้งหมดนั้นเป็นงูหางกระดิ่งนอร์ธเทิร์นแปซิฟิก เป็นงูมีพิษพบได้ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย และปกติงูหางกระดิ่งจะจำศีลซึ่งเป็นอาการที่สัตว์บางชนิดนอนนิ่งไม่ออกหาอาหารในช่วงฤดูหนึ่ง ระหว่างเดือน ต.ค.ถึง เม.ย.โดยพวกมันจะซ่อนอยู่ในพื้นที่อบอุ่น และจะกลับมาจำศีลที่เดิมเป็นประจำทุกปี


นายอัล วูล์ฟ บอกอีกว่า เขาทำงานจับงูมาแล้ว 32 ปี เคยถูกงูกัดมา 13 ครั้ง รับหน้าที่จับงูในบ้านใน 13 เขต เคยเจองูหลายสิบตัวในป่า แต่ไม่เคยเจองูมากแบบนี้ในบ้านมาก่อน สำหรับงูที่จับมาได้ก็จะเอาไปปล่อยในป่าที่ห่างไกลจากผู้คน หรือบางครั้งก็ไปปล่อยในพื้นที่เอกชน หากได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่าให้ช่วยเอางูเข้าไปกำจัดพวกแมลงหรือหนู เขาบอกอีกว่าจะกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งช่วงก่อนสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เพื่อดูว่ายังมีงูเหลืออีกหรือไม่


เครดิตภาพ AP