จากกรณี ที่ประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 9 สมัยสามัญ มีมติให้ความเห็นชอบให้ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รองอัยการสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ด้วยคะแนนให้ความเห็นชอบ 184 เสียง โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งต่อไป ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ว่าที่อัยการสูงสูงสุด คนที่ 19 สำเร็จการศึกษา นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา สมัยที่ 34 และ LL.M., Tulane University, U.S.A.
สำหรับประวัติการทำงาน เริ่มรับราชการในตำแหน่ง อัยการผู้ช่วย กองคดีอาญา เมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยสอบเข้ารับราชการได้ในลำดับที่ 1 ดำรงตำแหน่งสำคัญดังนี้
พ.ศ. 2552-2558 อัยการพิเศษฝ่ายกิจการต่างประเทศ 3 สำนักงานต่างประเทศ
พ.ศ. 2558-2559 อัยการพิเศษฝ่ายยุทธศาสตร์และฐานข้อมูลคดีค้ามนุษย์ สำนักงานคดีค้ามนุษย์
พ.ศ. 2559-2561 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 สำนักงานคดีอาญา
พ.ศ. 2561-2563 รองอธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ
พ.ศ. 2563-2564 อธิบดีอัยการ สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ
พ.ศ. 2564-2565 อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลแขวง
พ.ศ. 2565-ปัจจุบัน รองอัยการสูงสุด
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผลงานที่โดดเด่น เช่น การริเริ่มให้มีการจัดโครงการ “อัยการไทยคุ้มครองสิทธิไปทั่วโลก” ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ โดยจัดพนักงานอัยการร่วมบรรยายและให้คำปรึกษาทางกฎหมายตามที่สถานเอกอัครรรรราชทูตไทยในต่างประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรที่มีถิ่นที่ตั้งในต่างประเทศร้องขอมา โดยนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเครื่องมือในการขยายขอบเขตความคุ้มครองให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างแดน ทำให้สามารถเข้าถึงประชาชนคนไทยในต่างประเทศได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยสะดวกรวดเร็ว และไม่เป็นภาระแก่งบประมาณแผ่นดิน
นอกจากนี้ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสามัญในคณะกรรมการบริหาร (the Ordinary Member of the Executive Committee) ของสมาคมอัยการระหว่างประเทศ (Intemational Association of Prosecutor : IAP) ซึ่งเป็นสมาคมที่ไม่แสวงหากำไรและได้จัดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสมาคม ที่ เป็นศูนย์กลางและศูนย์รวมในการพบปะและแลกเปลี่ยนระหว่างพนักงานอัยการทั่วโลก ซึ่งประเทศไทย โดยสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับเกียรติให้เป็นผู้แทนถาวรมาโดยตลอด นับเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้แทนของอัยการไทยในเวทีระดับโลก
นอกจากนั้น ยังได้ริเริ่มให้มีการจัดทำโครงการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐหลายแห่ง เพื่อประสานความร่วมมือและให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการป้องกันและปราบปรามปัญหาหนี้นอกระบบที่ทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของประชาชน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยการจัดให้พนักงานอัยการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่รัฐบาลร้องขอ ในการให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำทางกฎหมายแก่ประชาชน และจัดโครงการรถคาราราวานแก้ปัญหา
โดยจัดหารถยนต์ตู้เคลื่อนที่ให้แก่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด เพื่อกระจายความช่วยเหลือดังกล่าว ให้ออกไปยังผู้ยากไร้หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งไม่สามารถที่จะเดินทางมาพบพนักงานอัยการ ณ สถานที่ทำการได้ ส่งผลให้ปัญหาหนี้นอกระบบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ.