ดำเนินธุรกิจบนหลัก ความยั่งยืนอย่างสมดุล ให้เหมาะกับบริบทองค์กรทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้ปตท. เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล บริหารองค์กรด้วยความโปร่งใส มีการกำกับดูแลที่ดีมีธรรมาภิบาล
นอกจากนี้ยังได้เน้นยํ้าถึงทิศทางและนโยบายการสร้างความแข็งแรงและเติบโต ควบคู่ไปกับสังคมไทยที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน ว่า กำลังศึกษาโครงการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ตามนโยบายลดคาร์บอนเป็นศูนย์ของประเทศไทยในปี 2065 แต่ ปตท. จะทำให้ถึงเป้าหมายภายในปี 2050 (ปี พ.ศ. 2593) ขณะนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก และนำลงไปสู่ภาคปฏิบัติในบางส่วนแล้ว เช่น ในส่วนของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. มีการนำคาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้มาจากขบวนการขุดเจาะก๊าซขึ้นมาจากหลุมผลิต อัดกลับไปในหลุมก๊าซเดิม หรือหลุมที่เตรียมไว้สำหรับจัดเก็บด้วย โดยการจัดเก็บต้องพิจารณาถึงโครงสร้างทางธรณีวิทยาด้วย
ปรับธุรกิจไฮโดรคาร์บอนให้ยิ่งแกร่ง
สำหรับแนวทางการดำเนินงานได้หารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน เพื่อความคล่องตัวในการลงทุนในอนาคต จึงยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าแผนจะเสร็จเมื่อไร และต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนเท่าไร เบื้องต้นตอบได้เพียงว่า ปตท.จะเป็นหัวหอกการลงทุนโครงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอนาคต
ทั้งนี้ปตท.จะเร่งสร้างความแข็งแรงและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็น Core Business (แก่นธุรกิจหลัก) ของ ปตท. ที่ ปตท. ทำได้ดี แต่จะทำแบบเดิมไม่ได้ ต้องทำควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก และต้องปรับตัวพร้อมรับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ธุรกิจ Upstream and Power จะต้องเร่งขยายแหล่งสำรวจและผลิต ร่วมกับ Partner มีต้นทุนที่แข่งขันได้ รวมถึงการ
ผลักดันการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา (OCA) เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ในส่วนของธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้ามี Mandate ให้เสริมสร้าง Reliability และ Decarbonize ให้กับกลุ่ม ปตท.
ธุรกิจ Downstream จะต้องปรับตัวและสร้างความแข็งแรงร่วมกับ Partner แสวงหาโอกาสในการสร้าง Synergy ร่วมกันเพิ่มเติม ทั้งนี้ธุรกิจนํ้ามันและการค้าปลีกนั้นจะต้องมุ่งหน้าเป็น Mobility Partner ของคนไทย ปรับพอร์ตการลงทุนให้มี Substance และ Asset Light รวมถึงการรักษาการเป็นผู้นำตลาด
เปิดทิศทางธุรกิจอีวีในมือปตท.
ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ Non-Hydrocarbon โดยจะประเมินธุรกิจนี้ใน 2 มุมคือ 1.ธุรกิจต้องมีความน่าสนใจ และ 2.ปตท. มี Right to Play หรือมีจุดแข็ง สามารถเข้าไปต่อยอดในธุรกิจนั้น ๆ ได้ และมี Partner ที่แข็งแรง ซึ่งมีแนวทางการลงทุนในธุรกิจ Non-Hydrocarbon ดังนี้
ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอีวี ปตท.จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจบรรจุกระแสไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะต้องมีการควบรวมแบรนด์ต่าง ๆ ภายใต้กลุ่ม ปตท. และใช้ OR Ecosystem ที่มี Touch Point อยู่ทั่วประเทศให้เป็นประโยชน์, ธุรกิจ Logistics ปตท. จะเน้นไปเฉพาะธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ Core Business ของ ปตท. และมี Captive Demand อยู่แล้ว โดยยึดหลัก Asset-light และมี Partner ที่แข็งแรง, ธุรกิจ Life Science ปตท. จะต้องสามารถพึ่งพาตัวเองได้ทางการเงิน และสร้าง Goodwill ให้กับสังคม
สร้างสมดุลESGคู่ลดก๊าซฯ
ปตท. มีแผนการสร้างสมดุล ESG ให้เหมาะสมกับบริบทองค์กร ควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ผ่านการผลักดันธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฮโดรเจน และการดำเนินโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture Storage : CCS) โดยทำงานแบบบูรณาการร่วมกันทั้งกลุ่ม ปตท.โดยต้องกำหนดบทบาทหน้าที่ชัดเจน และมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อใช้จุดแข็งของแต่ละบริษัทในกลุ่มให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีปตท. ดูภาพรวม
นอกจากนี้ ปตท. ให้ความสำคัญเรื่อง Operational Excellence หรือ OpEx อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งกลุ่ม อีกทั้งมุ่งเน้นเสริมศักยภาพบุคลากรและการมุ่งรักษาพื้นฐานที่สำคัญ มุ่งเน้นธรรมาภิบาล และการกำกับกิจการที่ดี และการมีความเป็นเลิศทางด้านการเงิน (Financial Excellence) ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการประกอบธุรกิจ
ปตท.ยังคงยึดมั่นพันธกิจในการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพทางพลังงานให้แก่ประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง บนหลัก “ความยั่งยืนอย่างสมดุล” ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม รวมถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดย ปตท.ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทอันดับ 1 ของประเทศไทย และอันดับที่ 2 ในภูมิภาคอาเซียน จากนิตยสารฟอร์จูน เซาท์อีสต์เอเชีย 500 4 รางวัลดีเด่นในระดับภูมิภาคอาเซียน จาก 14th Institutional Investor Corporate Awards 2024 การรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) 4 สมัยต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังมีส่วนร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของประเทศ โดยให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาจำนวน 20 สมาคม ภายใต้งบประมาณ 200 ล้านบาท ส่งเสริมศักยภาพคนไทยสู่สากล
ตลอดจนดำเนินโครงการเพื่อสังคมและกิจกรรมเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในปีมหามงคลนี้ ได้แก่ โครงการพัฒนาพื้นที่กำแพงเพชร 6 ริมคลองเปรมประชากร จัดสร้างเป็นสวนสาธารณะ จำนวน 10 ไร่ เปิดให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการออกกำลังกาย
พักผ่อนหย่อนใจ การผลิตหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำเสนอโครงการตามพระบรมราโชบายพัฒนาแหล่งนํ้า เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน จำนวน 2 เรื่อง โดยมีแผนเผยแพร่อีก 5 เรื่องภายในปีนี้.