เมื่อเวลา 08.54 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลได้ลงจากรถและเดินลงมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิเพชรเกษม เพื่อสอบถามถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและให้กำลังใจในการทำหน้าที่ พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมถึงสอบถามเรื่องการช่วยเหลือ โดยทางเจ้าหน้าที่รายงานว่า หลักๆ ขณะนี้ในส่วนของมูลนิธิและหน่วยงานทหารต่างๆ ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของการฟื้นฟูทำความสะอาด
โดยนายกฯ ได้สอบถามว่า หลังจากวันนี้จะลงไปช่วยเหลือในพื้นที่ไหนก่อน และในพื้นที่ยังต้องการความช่วยเหลืออะไรอีกบ้าง เพราะเท่าที่ทราบตอนนี้ขาดในเรื่องของสุขา และยังมีอะไรที่เรายังขาดการช่วยเหลือ ด้านเจ้าหน้าที่ ตอบว่า อย่างเรื่องการช่วยเหลือประชาชนยังขาดในเรื่องของสาธารณูปโภค รวมถึงผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ตามบ้าน ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง หากมาอยู่ศูนย์พักพิง เครื่องไม้เครื่องมืออาจไม่เพียงพอ และหลักๆ การลงพื้นที่จะลงที่จังหวัดเชียงรายก่อน จังหวัดหนองคาย และจังหวัดพะเยา และหลังจากนี้ต้องเตรียมความพร้อมรับมือพายุซูลิกว่าจะมีผลกระทบกับพวกเรามากน้อยแค่ไหน เพราะตอนนี้ของที่ได้รับบริจาคมาพยายามกระจายให้ไปทั่วประเทศ เพราะทางภาคใต้ก็เริ่มมีปัญหาบางส่วนบ้างแล้ว เช่น จังหวัดตรังและจังหวัดสตูลด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวด้วยว่า ขอพูดตามตรง หน่วยงานที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือท่านไม่ต้องเป็นห่วง คิดว่าทุกส่วนมีความพร้อมเพื่อจะลงไปช่วยเหลือประชาชน ในส่วนของทางภาครัฐที่ต้องรับผิดชอบ ตนขอให้เป็น 3 กรอบดีกว่า คือ ก่อน เกิดและหลัง เป็นหน้าที่ภาครัฐที่ต้องดูแล วันนี้ถือเป็นบทเรียนใหม่ๆ มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้การสูญเสียน้อยลง และเราก็จะทำงานน้อยลง
ด้านนายกฯ กล่าวตอบกลับว่า เห็นด้วยต้องปรับปรุงในเรื่องของเทคโนโลยีในการแจ้งเตือนประชาชนต้องได้รับข้อมูลจริงๆ และขณะนี้เรื่องของการช่วยเหลือภาคเอกชนก็ได้รับทราบว่าทุกคนได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ รวมถึงมีโรงครัวพระราชทาน ซึ่งรัฐบาลก็ได้มีการช่วยเหลือเพิ่มเติม นอกเหนือจากการลงพื้นที่ไปแล้วเพื่อจะได้เป็นการร่วมมือกันของทุกฝ่าย ซึ่งความจริงภาคเอกชนหลายหน่วยงานก็ได้ติดต่อรัฐบาลมาก่อนแล้ว ตรงนี้ถือเป็นน้ำใจของทุกภาคส่วนจริงๆ หากพื้นที่มีเหตุการณ์อะไรก็ขอให้แจ้งเข้ามาทันที ตนอยากให้ความทุกข์มันสั้นๆ ที่สุด และให้หายเร็วที่สุด ตนขอให้กำลังใจ และส่งกำลังใจไปด้วย
ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าจะลงพื้นที่อีกไหม นายกฯ กล่าวว่า “มีค่ะ เดี๋ยวรอประสานกับรัฐมนตรี เนื่องจากมีการแบ่งกันลงพื้นที่จะได้ลงกันหลายพื้นที่” จากนั้นนายกฯ เดินมายังบูธของภาคเอกชน ที่ร่วมบริจาค พร้อมขอบคุณและแสดงความประทับใจหลังทราบว่าได้มีการนำขวดน้ำพลาสติกประมาณ 38 ขวดมาทำผ้าห่มได้ 1 ผืน นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาร่วมมือช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และเดี๋ยว 11.00 น. มาเจอใหม่กันใหม่อีกครั้ง
ต่อมานายกฯ เข้าไปยังภายในตึกสันติไมตรี หลังนอก พูดกับ พล.ต.ชยพณัฐ วิริรัตน์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร พร้อมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมเป็นประธานงานประสานพลัง ประสานใจ ในเวลา 12.00 น. ที่ตึกสันติไมตรีหลังและยังได้พูดคุยหารือร่วมกับคณะจิตอาสา 12 องค์กรและภาคเอกชน รวมทั้งร่วมมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค ไปยังพื้นที่ประสบภัย ที่บริเวณเสาธง หน้าตึกสันติไมตรีด้วย
ทั้งนี้ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เมื่อเข้ามาถึงทำเนียบรัฐบาล เห็นคณะทำงานกำลังทำงานกันอยู่เลยเข้ามาทักทายและให้กำลังใจทุกคน สำหรับวันนี้ได้สวมกางเกงผ้าจากจังหวัดพะเยา ได้มาก่อนที่จะเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นผ้าที่สวยงาม นำมาตัดเป็นกางเกง ซึ่งความจริงเป็นผ้าถุงแต่นำมาตัดเป็นกางเกง เพราะคิดว่าน่าจะได้ใส่บ่อย และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า